ในโลกของการทำการตลาดดิจิทัล การทำ SEO (Search Engine Optimization) เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเจ้าของเว็บไซต์และนักการตลาดออนไลน์ทุกคน แต่หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่า Off-Page SEO คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรในการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกเรื่อง Off-Page SEO พร้อมตัวอย่างการทำจริงที่คุณสามารถนำไปปรับใช้กับเว็บไซต์ของคุณได้ทันที
Off-Page SEO คืออะไร?
Off-Page SEO หรือ Off-site SEO คือ การทำ SEO ที่เน้นปัจจัยภายนอกเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและอำนาจของเว็บไซต์ในสายตาของ Google และเสิร์ชเอนจินอื่นๆ โดยมีเป้าหมายหลักคือการสร้าง “Authority” หรือความเชี่ยวชาญและความน่าเชื่อถือในหัวข้อหรืออุตสาหกรรมนั้นๆ
ในขณะที่ On-Page SEO เน้นการปรับแต่งเนื้อหาและโครงสร้างภายในเว็บไซต์ Off-Page SEO จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงกับเว็บไซต์อื่นๆ รวมถึงการสร้างการรับรู้แบรนด์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ
ทำไม Off-Page SEO ถึงมีความสำคัญ?
- เพิ่ม Domain Authority : การทำ Off-Page SEO ช่วยเพิ่มค่า Domain Authority ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์
- เพิ่ม Traffic : กลยุทธ์ Off-Page SEO ที่ดีสามารถนำ Traffic มาสู่เว็บไซต์จากหลากหลายช่องทาง
- สร้างความน่าเชื่อถือ : เมื่อมีเว็บไซต์อื่นๆ อ้างอิงถึงเว็บไซต์ของคุณ แสดงว่าเนื้อหาของคุณมีคุณค่าและน่าเชื่อถือ
- เพิ่มโอกาสในการจัดอันดับ : Google ใช้ปัจจัย Off-Page เป็นส่วนหนึ่งในการจัดอันดับผลการค้นหา

10 เทคนิคการทำ Off-Page SEO พร้อมตัวอย่างการทำจริง
มาดู 10 เทคนิคการทำ Off-Page SEO พร้อมตัวอย่างการทำจริง ดังต่อไปนี้
1. การทำ Link Building
Link Building คือการสร้างลิงก์ย้อนกลับ (Backlink) จากเว็บไซต์อื่นมายังเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Off-Page SEO
ตัวอย่างการทำจริง
- สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและมีคุณค่า เช่น บทความวิจัย, อินโฟกราฟิก, หรือ eBook
- ติดต่อเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมเดียวกันและเสนอให้พวกเขาลิงก์มาที่เนื้อหาของคุณ
- ใช้เครื่องมือ Ahrefs หรือ SEMrush เพื่อวิเคราะห์ Backlink ของคู่แข่งและหาโอกาสในการสร้าง Backlink
2. การสร้างแบรนด์ (Brand Building)
การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและจดจำช่วยเพิ่มโอกาสที่คนจะค้นหาชื่อแบรนด์ของคุณบน Google
ตัวอย่างการทำจริง
- สร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ชัดเจนและสม่ำเสมอบนทุกแพลตฟอร์ม
- ใช้ Google Trends เพื่อติดตามการเติบโตของการค้นหาชื่อแบรนด์
- สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายอย่างสม่ำเสมอ
3. การใช้ Content Marketing
Content Marketing เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยสร้าง Backlink และเพิ่มการรับรู้แบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างการทำจริง
- เขียนบทความ SEO ที่ให้ความรู้และมีคุณค่าต่อผู้อ่าน
- ทำอินโฟกราฟิกที่น่าสนใจและง่ายต่อการแชร์
- สร้าง eBook หรือ White Paper ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรมของคุณ
4. การทำวิดีโอและพอดแคสต์
วิดีโอและพอดแคสต์เป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมและสามารถช่วยในการทำ Off-Page SEO ได้
ตัวอย่างการทำจริง
- สร้างช่อง YouTube และอัพโหลดวิดีโอที่ให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ
- เริ่มทำพอดแคสต์และเชิญผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมาเป็นแขกรับเชิญ
- ใส่ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของคุณในคำอธิบายวิดีโอหรือพอดแคสต์
5. การทำ Local SEO
Local SEO ช่วยให้ธุรกิจท้องถิ่นสามารถเพิ่มการมองเห็นในผลการค้นหาของ Google สำหรับคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่
ตัวอย่างการทำจริง
- สร้างและปรับแต่งโปรไฟล์ Google My Business ให้สมบูรณ์
- รวบรวมรีวิวจากลูกค้าและตอบกลับอย่างสม่ำเสมอ
- สร้าง Citations บนไดเรกทอรีท้องถิ่นและเว็บไซต์รีวิว
6. การใช้โซเชียลมีเดีย
แม้ว่าสัญญาณโซเชียลมีเดียจะไม่ส่งผลโดยตรงต่อการจัดอันดับ SEO แต่ก็มีส่วนช่วยในการสร้างการรับรู้แบรนด์และนำ Traffic มาสู่เว็บไซต์
ตัวอย่างการทำจริง
- สร้างและดูแลโปรไฟล์โซเชียลมีเดียบนแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น Facebook, Instagram, LinkedIn
- แชร์คอนเทนต์ที่มีคุณค่าและน่าสนใจอย่างสม่ำเสมอ
- ใช้ hashtag ที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มการมองเห็น
7. การเขียนบทความเป็นแขกรับเชิญ (Guest Blogging)
การเขียนบทความเป็นแขกรับเชิญบนเว็บไซต์อื่นช่วยสร้าง Backlink คุณภาพและเพิ่มการรับรู้แบรนด์
ตัวอย่างการทำจริง
- ค้นหาเว็บไซต์ในอุตสาหกรรมเดียวกันที่รับบทความจากแขกรับเชิญ
- เสนอหัวข้อที่น่าสนใจและมีคุณค่าต่อผู้อ่านของเว็บไซต์นั้น
- เขียนบทความคุณภาพสูงและรวมลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของคุณอย่างเป็นธรรมชาติ
8. การมีส่วนร่วมในฟอรั่มและชุมชนออนไลน์
การมีส่วนร่วมในฟอรั่มและชุมชนออนไลน์ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและอาจนำไปสู่ Backlink ที่มีคุณค่า
ตัวอย่างการทำจริง
- ค้นหาและเข้าร่วมฟอรั่มที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมของคุณ เช่น Quora หรือ Reddit
- ตอบคำถามและให้คำแนะนำที่มีประโยชน์อย่างสม่ำเสมอ
- สร้างโปรไฟล์ที่สมบูรณ์พร้อมลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของคุณ (หากอนุญาต)
9. การจัดอีเวนต์หรือเวิร์กช็อปออนไลน์
การจัดอีเวนต์หรือเวิร์กช็อปออนไลน์ช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์และอาจนำไปสู่ Backlink จากผู้เข้าร่วมหรือสื่อ
ตัวอย่างการทำจริง
- จัดเวิร์กช็อปหรือเวบินาร์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับหัวข้อที่คุณเชี่ยวชาญ
- ใช้แพลตฟอร์มเช่น Zoom หรือ Eventbrite ในการจัดการอีเวนต์
- ส่งข่าวประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับอีเวนต์ไปยังสื่อในอุตสาหกรรมของคุณ
10. การทำ Influencer Marketing
การร่วมมือกับ Influencer สามารถช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์และสร้าง Backlink คุณภาพได้
ตัวอย่างการทำจริง
- ค้นหา Influencer ที่มีกลุ่มผู้ติดตามตรงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ
- เสนอความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย เช่น การรีวิวผลิตภัณฑ์หรือการสร้างคอนเทนต์ร่วมกัน
- ใช้เครื่องมือเช่น BuzzSumo หรือ Upfluence เพื่อค้นหาและติดต่อ Influencer

ข้อควรระวังในการทำ Off-Page SEO
แม้ว่า Off-Page SEO จะมีประโยชน์มาก แต่ก็มีข้อควรระวังที่สำคัญ
- หลีกเลี่ยง Black Hat SEO: อย่าใช้เทคนิคที่ผิดกฎของ Google เช่น การซื้อ Backlink จำนวนมาก หรือการใช้ Link Farm
- คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ: เน้นสร้าง Backlink คุณภาพจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องและน่าเชื่อถือ แทนที่จะหา Backlink จำนวนมากจากเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้อง
- ความสม่ำเสมอ: การทำ Off-Page SEO ต้องทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ไม่ใช่ทำเพียงครั้งเดียวแล้วหยุด
- ติดตามและวิเคราะห์ผล: ใช้เครื่องมือเช่น Google Analytics และ Google Search Console เพื่อติดตามผลลัพธ์และปรับปรุงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง
ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการทำ Off-Page SEO
เมื่อทำ Off-Page SEO อย่างถูกต้องและต่อเนื่อง คุณสามารถคาดหวังผลลัพธ์ดังนี้
- อันดับในผลการค้นหาที่ดีขึ้น: เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติดอันดับสูงขึ้นสำหรับคำค้นหาที่เกี่ยวข้อง
- การรับรู้แบรนด์ที่เพิ่มขึ้น: ผู้คนจะรู้จักและจดจำแบรนด์ของคุณได้มากขึ้น
- Traffic ที่เพิ่มขึ้น: คุณจะเห็นจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่เพิ่มขึ้นจากหลากหลายแหล่ง
- ความน่าเชื่อถือที่สูงขึ้น: เว็บไซต์ของคุณจะได้รับการมองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม
- โอกาสทางธุรกิจที่มากขึ้น: การเพิ่มการมองเห็นและความน่าเชื่อถือนำไปสู่โอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ
สรุปบทความ
Off-Page SEO เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ SEO โดยรวม การทำ Off-Page SEO อย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มอันดับในผลการค้นหาเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างแบรนด์ เพิ่มความน่าเชื่อถือ และสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณค่าในอุตสาหกรรมของคุณ
การทำ Off-Page SEO ที่ประสบความสำเร็จต้องอาศัยความอดทน ความคิดสร้างสรรค์ และความมุ่งมั่น เริ่มต้นด้วยการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง จากนั้นใช้เทคนิคต่างๆ ที่เราได้กล่าวถึงเพื่อเผยแพร่เนื้อหานั้นและสร้างการเชื่อมโยงกับเว็บไซต์อื่นๆ
จำไว้ว่า SEO เป็นกระบวนการระยะยาว ผลลัพธ์อาจไม่เกิดขึ้นในทันที แต่ด้วยความพยายามอย่างต่อเนื่อง คุณจะเห็นการเติบโตของเว็บไซต์และธุรกิจของคุณในที่สุด
หากต้องการความช่วยเหลือในการวางแผนและดำเนินการกลยุทธ์ Off-Page SEO แอดฉริยะ เอเจนซี่การตลาดออนไลน์ พร้อมให้คำปรึกษาและบริการที่ครอบคลุมทั้ง การทำการตลาดออนไลน์ บริการรับทำ SEO และ บริการทำ Backlink เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์
อย่าลืมว่า การทำ On-Page SEO ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การผสมผสานระหว่าง On-Page และ Off-Page SEO อย่างสมดุลจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณประสบความสำเร็จในระยะยาว
เริ่มต้นวางแผนและดำเนินการกลยุทธ์ Off-Page SEO ของคุณวันนี้ และดูการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับเว็บไซต์และธุรกิจของคุณ!

Leave a Reply