YouTube Ads คืออะไร

YouTube Ads คืออะไร? เจาะลึกทุกเรื่องการยิงแอด YouTube สำหรับธุรกิจ

หลายครั้งที่คุณเคยกดเข้าไปดูคลิปวิดีโอใน YouTube แล้วต้องเจอกับโฆษณาที่น่าสนใจจนกดข้ามไม่ลง หรือบางครั้งก็พบกับแบรนด์ใหม่ๆ ที่ตรงใจจนต้องกดเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม นั่นคือพลังของ YouTube Ads ที่แบรนด์หรือธุรกิจต่างเลือกใช้ในการทำโฆษณาออนไลน์

ในยุคที่ผู้คนใช้เวลากว่า 2.5 ชั่วโมงต่อวันบน YouTube และมีผู้ใช้งานมากกว่า 2.6 พันล้านคนต่อเดือนทั่วโลก แพลตฟอร์มนี้จึงไม่ใช่แค่ที่ดูวิดีโอเพื่อความบันเทิงอีกต่อไป แต่กลายเป็นช่องทางทรงพลังที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ADCHARIYA พร้อมพาคุณเจาะลึกทุกมิติของการทำโฆษณา YouTube Ads ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงเทคนิคระดับโปรที่จะช่วยให้แบรนด์ของคุณประสบความสำเร็จ

YouTube Ads คืออะไร? ทำความเข้าใจแบบละเอียด

YouTube Ads คือ ระบบโฆษณาบนแพลตฟอร์ม YouTube ที่พัฒนาโดย Google เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถนำเสนอเนื้อหาวิดีโอไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ด้วยการใช้เทคโนโลยี Machine Learning และ AI ที่ทันสมัย ทำให้โฆษณาของคุณสามารถเข้าถึงผู้ชมที่มีแนวโน้มจะสนใจสินค้าหรือบริการของคุณมากที่สุด

ทำไมธุรกิจต้องใช้ YouTube Ads?

  • สร้างการรับรู้แบรนด์อย่างรวดเร็ว: ด้วยรูปแบบวิดีโอที่ดึงดูดความสนใจ
  • เพิ่มโอกาสการขาย: ผู้ชมบน YouTube มีแนวโน้มซื้อสินค้าสูงกว่าแพลตฟอร์มอื่น
  • สร้างความน่าเชื่อถือ: นำเสนอเนื้อหาเชิงลึกผ่านวิดีโอคอนเทนต์
  • เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตลอด 24 ชั่วโมง: โฆษณาทำงานแม้คุณหลับ
  • แข่งขันกับคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ: ใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อปรับกลยุทธ์

รูปแบบการยิงแอด YouTube เจาะลึกทุกฟอร์แมต

รูปแบบโฆษณาความยาวการแสดงผลจุดเด่น
Skippable In-stream Adsไม่เกิน 3 นาที– ก่อน/ระหว่าง/หลังวิดีโอ- ข้ามได้หลัง 5 วินาที– ยืดหยุ่นสูง- ประหยัดงบประมาณ- วัดผลได้ชัดเจน
Non-skippable In-stream Ads15-30 วินาที– ก่อน/ระหว่าง/หลังวิดีโอ- ข้ามไม่ได้– รับชมจนจบ 100%- สื่อสารได้ครบถ้วน
In-feed Video Adsไม่จำกัด– ผลการค้นหา- ข้างวิดีโอที่เกี่ยวข้อง– ตรงกลุ่มเป้าหมาย- คุณภาพผู้ชมสูง
Bumper Ads6 วินาที– ก่อน/ระหว่าง/หลังวิดีโอ- ข้ามไม่ได้– กระชับ- จดจำง่าย
Masthead Adsไม่เกิน 30 วินาที– หน้าแรก YouTube- ทุกแพลตฟอร์ม– เข้าถึงกว้าง – Impact สูง
YouTube Shorts Adsไม่เกิน 60 วินาที– ระหว่าง Shorts- วิดีโอแนวตั้ง– ทันสมัย- เข้าถึงคนรุ่นใหม่

การทำโฆษณา YouTube Ads มีรูปแบบที่หลากหลาย แต่ละประเภทมีจุดเด่นและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ให้เหมาะสมจึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของแคมเปญ มาทำความรู้จักกับรูปแบบโฆษณาแต่ละประเภทกัน

Skippable In-stream Ads (โฆษณาที่ข้ามได้)

1. Skippable In-stream Ads (โฆษณาที่ข้ามได้)

ลักษณะเด่น

  • แสดงก่อน ระหว่าง หรือหลังวิดีโอหลัก
  • ผู้ชมสามารถข้ามได้หลังผ่านไป 5 วินาที
  • ความยาวแนะนำไม่เกิน 3 นาที

การคิดค่าโฆษณา

  • จ่ายเมื่อผู้ชมดูโฆษณาครบ 30 วินาที หรือดูจนจบ (กรณีวิดีโอสั้นกว่า 30 วินาที)
  • จ่ายเมื่อผู้ชมมีปฏิสัมพันธ์กับโฆษณา เช่น คลิกลิงก์

เหมาะสำหรับ

  • สร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง
  • นำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจ
  • ทดสอบคอนเทนต์ที่ดึงดูดความสนใจ
  • เหมาะกับทุกงบประมาณ
Non-skippable In-stream Ads (โฆษณาที่ข้ามไม่ได้)

2. Non-skippable In-stream Ads (โฆษณาที่ข้ามไม่ได้)

ลักษณะเด่น

  • ความยาว 15-30 วินาที
  • ผู้ชมต้องรับชมจนจบ
  • แสดงก่อน ระหว่าง หรือหลังวิดีโอหลัก

การคิดค่าโฆษณา

  • คิดตามจำนวนการแสดงผล (Cost Per Mille – CPM)
  • จ่ายต่อพันครั้งของการแสดงผล

เหมาะสำหรับ

  • แบรนด์ที่ต้องการสื่อสารข้อความสำคัญ
  • แคมเปญที่ต้องการความมั่นใจว่าผู้ชมจะเห็นโฆษณาจนจบ
  • การสร้างการจดจำแบรนด์
In-feed Video Ads (โฆษณาในฟีด)

3. In-feed Video Ads (โฆษณาในฟีด)

ลักษณะเด่น

  • แสดงในผลการค้นหา YouTube
  • ปรากฏข้างๆ วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
  • มีภาพขนาดย่อพร้อมข้อความดึงดูด

การคิดค่าโฆษณา

  • จ่ายเมื่อผู้ชมคลิกดูวิดีโอ
  • จ่ายเมื่อมีการรับชมแบบ autoplay นานกว่า 10 วินาที

เหมาะสำหรับ

  • คอนเทนต์ที่ให้ข้อมูลเชิงลึก
  • วิดีโอสาธิตสินค้า
  • การให้ความรู้หรือสอนการใช้งาน
Bumper Ads (โฆษณาสั้น)

4. Bumper Ads (โฆษณาสั้น)

ลักษณะเด่น

  • ความยาวไม่เกิน 6 วินาที
  • ข้ามไม่ได้
  • กระชับและจดจำง่าย

การคิดค่าโฆษณา

  • คิดตาม CPM (Cost Per Mille)
  • ราคาต่อพันการแสดงผล

เหมาะสำหรับ

  • เสริมแคมเปญหลัก
  • สร้างการจดจำแบรนด์
  • ส่งข้อความสั้นๆ ที่ทรงพลัง
Masthead Ads (โฆษณาหน้าแรก)

5. Masthead Ads (โฆษณาหน้าแรก)

ลักษณะเด่น

  • แสดงบนหน้าแรกของ YouTube
  • เล่นอัตโนมัติแบบไม่มีเสียง
  • ครอบคลุมทั้ง Desktop, Mobile และ TV

การคิดค่าโฆษณา

  • ต้องจองผ่านตัวแทนขายของ Google
  • คิดราคาตาม CPM พิเศษ

เหมาะสำหรับ

  • แบรนด์ขนาดใหญ่
  • การเปิดตัวสินค้าใหม่
  • แคมเปญที่ต้องการเข้าถึงผู้ชมจำนวนมาก
YouTube Shorts Ads (โฆษณาในช่อง Shorts)

6. YouTube Shorts Ads (โฆษณาในช่อง Shorts)

ลักษณะเด่น

  • รูปแบบวิดีโอแนวตั้ง
  • แสดงระหว่างการรับชม Shorts
  • ความยาวแนะนำไม่เกิน 60 วินาที

การคิดค่าโฆษณา

  • จ่ายตามการมีส่วนร่วม การรับชม หรือการแสดงผล
  • นับเป็นการรับชมเมื่อดูนานกว่า 10 วินาที

เหมาะสำหรับ

  • เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้มือถือ
  • คอนเทนต์ที่มีความคิดสร้างสรรค์สูง
  • แบรนด์ที่ต้องการความทันสมัย

ขั้นตอนการยิงแอด YouTube ทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

ในยุคที่คนใช้เวลากับ YouTube มากขึ้นเรื่อย ๆ การทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มนี้จึงเป็นช่องทางที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจทุกขนาด แต่หลายคนอาจกังวลว่าการยิงแอด YouTube นั้นยุ่งยากและซับซ้อน วันนี้ ADCHARIYA จะมาแนะนำขั้นตอนการยิงแอด YouTube ด้วยตัวเองแบบละเอียดทุกขั้นตอน

1. เตรียมพร้อมก่อนเริ่มยิงแอด

  • สมัครบัญชี Google Ads (ถ้ายังไม่มี)
  • เตรียมวิดีโอที่ต้องการโฆษณา
  • เตรียมข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน
  • กำหนดงบประมาณที่พร้อมใช้

2. เริ่มต้นสร้างแคมเปญ

  1. เข้าสู่ระบบ Google Ads
  2. คลิก “New Campaign”
  3. เลือก “Create a campaign without a goal’s guidance” (แนะนำสำหรับมือใหม่)
  4. เลือกประเภทแคมเปญเป็น “Video”

3. ตั้งค่าพื้นฐานแคมเปญ

ตั้งชื่อแคมเปญ

  • ใช้ชื่อที่เข้าใจง่าย เช่น “ชื่อสินค้า_เดือน_ปี”
  • ควรระบุประเภทโฆษณาในชื่อ เช่น “ProductA_InStream_Jan2024”

กำหนดงบประมาณ

  1. เลือกประเภทงบประมาณ:
    • Daily Budget: จ่ายต่อวัน (เช่น 300 บาท/วัน)
    • Campaign Total: จ่ายรวมทั้งแคมเปญ (เช่น 3,000 บาท/เดือน)
  2. กำหนดระยะเวลา:
    • Start date: วันเริ่มต้นแคมเปญ
    • End date: วันสิ้นสุด (หรือไม่กำหนดก็ได้)

4. ตั้งค่ากลุ่มเป้าหมาย

เลือกพื้นที่และภาษา

  • Location: เลือกประเทศ/จังหวัด/พื้นที่เป้าหมาย
  • Language: เลือกภาษาของกลุ่มเป้าหมาย

กำหนดกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ

  1. Demographics:
    • อายุ
    • เพศ
    • รายได้
    • สถานภาพ
  2. Interests & Behaviors:
    • ความสนใจ
    • พฤติกรรมการใช้งาน
    • หมวดหมู่ที่สนใจ

5. ตั้งค่าการแสดงผลโฆษณา

เลือกรูปแบบโฆษณา

  1. Skippable in-stream ads:
    • ข้ามได้หลัง 5 วินาที
    • จ่ายเมื่อดูนาน 30 วินาที หรือมีปฏิสัมพันธ์
  2. Non-skippable in-stream ads:
    • ข้ามไม่ได้
    • ความยาว 15-20 วินาที
  3. Video discovery ads:
    • แสดงในผลการค้นหา
    • จ่ายเมื่อมีคนคลิก

6. ตั้งค่าการประมูลราคา (Bidding)

เลือกกลยุทธ์การประมูล

  • Maximum CPV (Cost Per View)
  • Target CPM (Cost Per Thousand Impressions)

คำแนะนำการตั้งราคา

  • เริ่มต้นที่ 1-2 บาทต่อการรับชม
  • ปรับเพิ่ม/ลดตามผลตอบรับ
  • มอนิเตอร์ผลลัพธ์อย่างสม่ำเสมอ

7. อัพโหลดและตั้งค่าวิดีโอ

  1. ใส่ URL วิดีโอจาก YouTube
  2. ตั้งค่า Thumbnail ที่ดึงดูด
  3. เขียน Headline ที่น่าสนใจ
  4. ใส่ Call-to-Action ที่ชัดเจน

8. ตรวจสอบและเริ่มแคมเปญ

  • ตรวจสอบการตั้งค่าทั้งหมด
  • ดูตัวอย่างโฆษณา
  • กดเริ่มแคมเปญ

เทคนิคการเลือกรูปแบบโฆษณาให้เหมาะกับธุรกิจ

การเลือกรูปแบบโฆษณา YouTube ที่เหมาะสมเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดความสำเร็จของแคมเปญ โดยมีหลักการพิจารณาที่สำคัญดังนี้

วิเคราะห์วัตถุประสงค์ทางธุรกิจให้ชัดเจน

การเลือกรูปแบบโฆษณาควรเริ่มต้นจากการกำหนดเป้าหมายทางธุรกิจที่ชัดเจน หากต้องการสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง Skippable In-stream Ads อาจเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะเข้าถึงผู้ชมจำนวนมากและมีต้นทุนที่คุ้มค่า แต่หากต้องการนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อน In-feed Video Ads อาจเหมาะสมกว่า เพราะผู้ชมที่คลิกเข้ามาดูมักมีความสนใจในตัวสินค้าอยู่แล้ว

พิจารณางบประมาณและความคุ้มค่า

การบริหารงบประมาณโฆษณาอย่างชาญฉลาดเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น การใช้ Skippable In-stream Ads เป็นทางเลือกที่ดี เพราะจ่ายเฉพาะเมื่อผู้ชมดูโฆษณาจนจบหรือมีการโต้ตอบ ในขณะที่ธุรกิจที่มีงบประมาณสูงอาจพิจารณา Non-skippable Ads หรือ Masthead Ads เพื่อสร้างผลกระทบที่รุนแรงในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม การผสมผสาน Bumper Ads เข้าไปในแคมเปญสามารถช่วยเสริมประสิทธิภาพและความคุ้มค่าได้เป็นอย่างดี

เข้าใจพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย

การทำความเข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายเป็นกุญแจสำคัญในการเลือกรูปแบบโฆษณา หากกลุ่มเป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่ที่ใช้สมาร์ทโฟนเป็นหลัก YouTube Shorts Ads อาจให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เพราะสอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคคอนเทนต์แบบสั้นและกระชับ ในทางกลับกัน หากกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ที่ต้องการข้อมูลเชิงลึก การใช้ In-feed Video Ads ที่นำเสนอเนื้อหาแบบละเอียดอาจเหมาะสมกว่า

วางแผนตามช่วงเวลาและฤดูกาล

การเลือกรูปแบบโฆษณายังต้องคำนึงถึงช่วงเวลาและฤดูกาลทางธุรกิจ ในช่วงเทศกาลสำคัญหรือช่วงที่มีการแข่งขันสูง การใช้ Masthead Ads อาจช่วยให้แบรนด์โดดเด่นเหนือคู่แข่ง ในขณะที่ช่วงเวลาปกติ การใช้ Skippable Ads หรือ Bumper Ads อย่างต่อเนื่องอาจเพียงพอสำหรับการรักษาการรับรู้แบรนด์

ทดสอบและวัดผลอย่างเป็นระบบ

การเลือกรูปแบบโฆษณาที่เหมาะสมไม่ควรยึดติดกับทฤษฎีเพียงอย่างเดียว การทดสอบหลายรูปแบบในช่วงแรกและวัดผลอย่างเป็นระบบจะช่วยให้คุณเข้าใจว่ารูปแบบไหนทำงานได้ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ เริ่มต้นด้วยการทดลองใช้ Skippable Ads และ Bumper Ads ควบคู่กัน จากนั้นวิเคราะห์ข้อมูลการมีส่วนร่วม อัตราการมีปฏิสัมพันธ์ และต้นทุนต่อการเข้าถึง เพื่อปรับแผนการใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของตลาด

ความสำเร็จในการโฆษณาบน YouTube ไม่ได้อยู่ที่การเลือกรูปแบบโฆษณาที่ดีที่สุดเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ความสามารถในการปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดด้วย เช่น การเพิ่มสัดส่วนการใช้ YouTube Shorts Ads เมื่อเห็นว่าผู้บริโภคนิยมดูวิดีโอแนวตั้งมากขึ้น หรือการปรับเปลี่ยนไปใช้ Non-skippable Ads เมื่อต้องการความแน่นอนในการส่งสารถึงกลุ่มเป้าหมาย

การเลือกรูปแบบโฆษณาที่เหมาะสมจึงเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ต้องอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูล ความเข้าใจในธุรกิจ และความยืดหยุ่นในการปรับตัว ADCHARIYA พร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการเลือกรูปแบบโฆษณา YouTube ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ

สรุปเริ่มต้นทำโฆษณา YouTube Ads อย่างไรให้คุ้มค่า

การทำโฆษณา YouTube เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจในยุคดิจิทัล แต่ต้องอาศัยความเข้าใจและการวางแผนที่ดี ADCHARIYA เอเจนซี่การตลาดออนไลน์ ที่ทำงานอย่างอัจฉริยะ พร้อมช่วยคุณวางกลยุทธ์การทำโฆษณา YouTube Ads แบบครบวงจร ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แคมเปญของคุณประสบความสำเร็จและคุ้มค่ากับการลงทุน


Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *