แบรนด์และห้างร้านต่างๆ กำลังมองหากลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ ซึ่งการตลาดแบบไทยๆ ไม่เคยธรรมดา โดยจากผลสำรวจล่าสุดในปี 2025 ของคนไทยยังคงเชื่อในเรื่องของความเป็นมงคลและโชคลาง โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีความผันผวน ผู้คนยิ่งแสวงหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจมากขึ้น ทำให้ “Muketing (มูเก็ตติ้ง)” หรือการตลาดสายมู กลายเป็นเทรนด์ที่กำลังเปลี่ยนโฉมวงการการตลาดไทยอย่างน่าจับตามอง
- ทำความเข้าใจ Muketing และผลกระทบต่อธุรกิจในปี 2025
- กลยุทธ์การทำ Muketing สำหรับช่วงอายุต่างๆ ในปี 2025
- 7 แคมเปญ Muketing ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย
- 1.ชุดผ้าปูที่นอนเสริมดวงจาก ‘ซาติน’
- 2.สบู่เหลว ‘โชกุบุสซึ’ กลิ่นดิน น้ำ ลม ไฟ
- 3.บัตรแรบบิทมหาเทพจาก ‘แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์’
- 4.แอปพลิเคชันหาคู่ ‘Tinder’ กับฟีเจอร์สายมู
- 5.’ดีน่า’ กับกลยุทธ์ Muketing
- 6.’MRT สายมู’ ขอพรแบบปังๆ
- 7.’King Power’ กับแคมเปญช้อป ดวง ปัง
- การประยุกต์ใช้ Muketing ในธุรกิจ
- อนาคตของ Muketing ในปี 2025 และปีต่อไป
ทำความเข้าใจ Muketing และผลกระทบต่อธุรกิจในปี 2025
Muketing เป็นการผสมผสานระหว่างความเชื่อเรื่องโชคลางกับกลยุทธ์การตลาดสมัยใหม่เข้าด้วยกัน โดยนำความเชื่อของผู้บริโภคมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ ปัจจุบันตลาดของกลุ่มผู้บริโภค “สายมู” ในประเทศไทยมีขนาดใหญ่มาก โดยจากการสำรวจล่าสุดพบว่ามีคนไทยกว่า 52 ล้านคน หรือมากกว่า 74% ของประชากรทั้งประเทศที่มีความเชื่อเรื่องโชคลาภและดวงชะตา
ความน่าสนใจของ Muketing อยู่ที่การใช้ “ความเชื่อ” ซึ่งมีต้นทุนต่ำ มาเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในยุคที่ผู้บริโภคต้องการความเชื่อมโยงทางอารมณ์ความรู้สึกกับแบรนด์มากขึ้น การนำ Muketing มาใช้จึงเป็นโอกาสในการสร้างความแตกต่างและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจ
กลยุทธ์การทำ Muketing สำหรับช่วงอายุต่างๆ ในปี 2025
การทำความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคแต่ละเจเนอเรชันเป็นกุญแจสำคัญในการทำ Muketing ให้ประสบความสำเร็จ โดยแต่ละกลุ่มมีความแตกต่างในการรับรู้และตอบสนองต่อการตลาดสายมูที่แตกต่างกัน
Gen Z (อายุ 11-26 ปี)
มองการมูในแง่ของการผสมผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์และแฟชั่น พวกเขาชอบการนำความเชื่อมาประยุกต์ใช้ในรูปแบบที่เรียบง่ายแต่สวยงาม เช่น การใช้สีมงคล หรือเครื่องประดับที่มีความหมายในเชิงความเชื่อ
Gen Y (อายุ 27-42 ปี)
เป็นกลุ่มที่เปิดกว้างและพร้อมผสมผสานความเชื่อหลากหลายรูปแบบพวกเขามักแสวงหาความเชื่อที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตสมัยใหม่ โดยเฉพาะในด้านการเงินและความก้าวหน้าในอาชีพ การตลาดสำหรับกลุ่มนี้จึงควรนำเสนอในรูปแบบที่ทันสมัยและมีความยืดหยุ่น
Gen X (อายุ 43-58 ปี)
พวกเขามักยึดมั่นในความเชื่อแบบดั้งเดิม และให้ความสำคัญกับพิธีกรรมและประเพณี การทำการตลาดกับกลุ่มนี้จึงควรเน้นการสื่อสารที่เคารพและรักษาคุณค่าของความเชื่อดั้งเดิมพร้อมทั้งเชื่อมโยงกับเรื่องสุขภาพและความมั่นคงในชีวิต
7 แคมเปญ Muketing ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย
1.ชุดผ้าปูที่นอนเสริมดวงจาก ‘ซาติน’

แบรนด์ซาตินเปิดตัวชุดผ้าปูที่นอนที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับผู้ใช้ โดยผสมผสานความเชื่อเรื่องโชคลางเข้ากับผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน พร้อมการออกแบบสีและลวดลายที่สื่อถึงโชคลาภ ความรัก และสุขภาพ เพื่อช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกอุ่นใจในทุกค่ำคืนที่นอนหลับพักผ่อน
2.สบู่เหลว ‘โชกุบุสซึ’ กลิ่นดิน น้ำ ลม ไฟ

โชกุบุสซึเปิดตัวสบู่เหลวที่มีกลิ่นตามธาตุทั้งสี่ เพื่อเสริมดวงและความสมดุลให้กับผู้ใช้ตามความเชื่อเรื่องธาตุประจำตัว โดยยังคงเน้นคุณภาพในด้านการดูแลผิวพรรณ และเพิ่มประสบการณ์การอาบน้ำที่ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
3.บัตรแรบบิทมหาเทพจาก ‘แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์’

บัตรแรบบิทที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ มีภาพมหาเทพเพื่อเสริมสิริมงคลในการเดินทางและการใช้ชีวิตประจำวัน พร้อมฟีเจอร์พิเศษสำหรับแลกของรางวัลมงคล เช่น ตะกรุด หรือวัตถุมงคล เพื่อเพิ่มแรงดึงดูดใจจากกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบสายมู
4.แอปพลิเคชันหาคู่ ‘Tinder’ กับฟีเจอร์สายมู

Tinder เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหาคู่ที่ตรงกับดวงชะตาและความเชื่อส่วนบุคคล เพื่อเสริมความมั่นใจในการหาคู่ โดยมีคำแนะนำพิเศษเกี่ยวกับการสร้างความสัมพันธ์ที่เหมาะสมตามธาตุหรือราศีของคู่ที่จับคู่ได้
5.’ดีน่า’ กับกลยุทธ์ Muketing

ดีน่าใช้กลยุทธ์การตลาดสายมูโดยเชื่อมโยงสุขภาพกับความเชื่อ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่สนใจในเรื่องสุขภาพและโชคลาง พร้อมแนะนำสินค้าใหม่ในรสชาติและส่วนผสมที่เสริมพลังชีวิตและโชคลาภในทุกวัน
6.’MRT สายมู’ ขอพรแบบปังๆ

โครงการรถไฟฟ้า MRT จัดแคมเปญพิเศษสำหรับสายมู โดยมีการตกแต่งสถานีและจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อ เช่น การเชิญอาจารย์ดังมาทำพิธีเสริมดวง พร้อมแนะนำจุดลงรถที่ใกล้กับสถานที่มงคล เพื่อเพิ่มความสนใจจากผู้โดยสาร
7.’King Power’ กับแคมเปญช้อป ดวง ปัง

คิง เพาเวอร์ ฉลองตรุษจีน 2025 กับแคมเปญ “KING POWER CHINESE NEW YEAR 2025 ช้อป ดวง ปัง” ลดสูงสุด 40% สำหรับปีชง พร้อมคูปองส่วนลดและสิทธิพิเศษมากมาย เช่น รับฟรีไฟลต์บินไป-กลับฮ่องกงเมื่อช้อปครบ 50,000 บาท และอั่งเปาพร้อมอัปเกรดสถานะสมาชิกทันที นอกจากนี้ยังมีโปรโมชันออนไลน์ ลดสูงสุด 30% และรับแผ่นทองมงคลเสริมโชคลาภจากซินแสเป็นหนึ่ง
การประยุกต์ใช้ Muketing ในธุรกิจ
ความสำเร็จของ Muketing ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การนำความเชื่อมาใช้อย่างผิวเผิน แต่ต้องเข้าใจถึงแก่นแท้ของความเชื่อและวิธีการผสมผสานเข้ากับธุรกิจอย่างกลมกลืน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ควรคำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภคที่แท้จริง และนำเสนอในรูปแบบที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
การสื่อสารการตลาดควรมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าพร้อมความหมายให้กับสินค้าและบริการ โดยใช้ความเชื่อเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค ทั้งนี้ ควรรักษาสมดุลระหว่างการสร้างยอดขายและการรักษาความน่าเชื่อถือของแบรนด์
อนาคตของ Muketing ในปี 2025 และปีต่อไป
แนวโน้มของ Muketing ในอนาคตจะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ผู้บริโภคต้องการความเชื่อมโยงทางอารมณ์และจิตวิญญาณมากขึ้น การผสมผสานเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับความเชื่อแบบดั้งเดิมจะเป็นทิศทางสำคัญของการพัฒนา Muketing ในอนาคต
การเข้าใจและนำ Muketing มาใช้อย่างชาญฉลาดจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดแล้ว Muketing ไม่ใช่เพียงแค่เทรนด์ชั่วคราว แต่เป็นการตลาดที่เข้าถึงรากฐานความเชื่อและวัฒนธรรมของผู้บริโภคชาวไทยอย่างแท้จริง

Leave a Reply