ทำความรู้จัก UTM Tracking คืออะไร?

เคยสงสัยไหมว่าจะรู้ได้อย่างไรว่า Traffic มาจากที่ไหน? อินฟลูเอนเซอร์สร้าง Traffic จริงหรือ? หรือแคมเปญอีเมลมาร์เก็ตติ้งได้ผลแค่ไหน? คำตอบอยู่ที่เครื่องมือวิเคราะห์การตลาดที่เรียกว่า UTM Tracking

เพราะการเข้าใจที่มาของ Traffic กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักการตลาด UTM Tracking จึงเป็นเหมือนเข็มทิศที่ช่วยนำทางให้คุณเห็นแหล่งที่มาของผู้เข้าชมเว็บไซต์อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็น Social Media แคมเปญโฆษณา อีเมลมาร์เก็ตติ้ง หรือช่องทางอื่นๆ

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จัก UTM Tracking ตั้งแต่ความหมาย วิธีการใช้งาน ไปจนถึงประโยชน์ที่จะช่วยยกระดับกลยุทธ์การตลาดของคุณ เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อค้นพบเครื่องมือวิเคราะห์ที่จะเปลี่ยนวิธีคิดการทำการตลาดของคุณ

UTM คืออะไร และทำไมถึงสำคัญกับการตลาดออนไลน์

UTM (Urchin Tracking Module) คือเครื่องมือทางการตลาดที่ช่วยให้เราสามารถติดตามและวิเคราะห์ที่มาของ traffic บนเว็บไซต์ได้อย่างละเอียด โดยการเพิ่มพารามิเตอร์พิเศษเข้าไปในลิงก์ URL ที่เราใช้ในแคมเปญต่างๆ โดยบริษัทเอเจนซี่โฆษณา และผู้เชี่ยวชาญด้านการทำ Performance Marketing ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับการใช้ UTM เพราะมันช่วยให้เราเห็นภาพรวมของการเดินทางของลูกค้า (Customer Journey) ได้อย่างชัดเจน

การใช้ UTM Tracking ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราทราบที่มาของ traffic เท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแต่ละช่องทางการตลาด วัดผลตอบแทนการลงทุน (ROI) และปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

องค์ประกอบสำคัญของ UTM Parameters

ก่อนที่เราจะเจาะลึกเรื่องการใช้งาน UTM เราควรทำความเข้าใจองค์ประกอบพื้นฐานของ UTM Parameters ก่อน โดย UTM ประกอบด้วยพารามิเตอร์หลัก 5 ตัว แต่ละตัวมีหน้าที่แตกต่างกันในการติดตามข้อมูล

1. UTM Source (utm_source)

UTM Source เป็นพารามิเตอร์ที่ใช้ระบุแหล่งที่มาของ traffic ว่ามาจากแพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์ใด เช่น

• Facebook
• Google
• Newsletter
• Instagram

2. UTM Medium (utm_medium)

UTM Medium ช่วยระบุช่องทางหรือวิธีการที่ผู้ใช้คลิกเข้ามายังเว็บไซต์ เช่น

• cpc (Cost Per Click)
• email
• social
• banner
• referral

3. UTM Campaign (utm_campaign)

UTM Campaign ใช้สำหรับระบุชื่อแคมเปญหรือโปรโมชันเฉพาะที่คุณกำลังทำ เช่น

• summer_sale_2024
• new_product_launch
• christmas_promotion

4. UTM Term (utm_term) – ไม่บังคับ

UTM Term มักใช้สำหรับระบุคีย์เวิร์ดใน paid search campaigns เช่น

• running_shoes
• organic_coffee
• gaming_laptop

5. UTM Content (utm_content) – ไม่บังคับ

UTM Content ช่วยแยกความแตกต่างระหว่างโฆษณาหรือลิงก์ที่นำไปสู่เนื้อหาเดียวกัน เช่น

• blue_button
• sidebar_link
• header_banner

ตัวอย่าง UTM Parameters ที่ใช้บ่อย

พารามิเตอร์	ตัวอย่างการใช้งาน	คำอธิบาย
utm_source	facebook	ระบุแพลตฟอร์มต้นทาง
utm_medium	social	ระบุช่องทางการเข้าถึง
utm_campaign	summer_sale_2025	ระบุชื่อแคมเปญ
utm_term	running_shoes	ระบุคีย์เวิร์ดที่ใช้
utm_content	header_banner	ระบุตำแหน่งหรือรูปแบบของลิงก์

วิธีการสร้างและใช้งาน UTM Tracking อย่างมืออาชีพ

เมื่อเราเข้าใจองค์ประกอบพื้นฐานของ UTM แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเรียนรู้วิธีการสร้างและใช้งาน UTM อย่างถูกต้อง ซึ่งการทำ UTM Tracking นั้นไม่ใช่แค่การใส่พารามิเตอร์ลงไปเท่านั้น แต่ต้องมีการวางแผนและทำอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะสำหรับ บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ ที่ต้องดูแลหลายแคมเปญพร้อมกัน

แนวทางการตั้งชื่อ UTM Parameters ให้เป็นระบบ

การตั้งชื่อ UTM Parameters อย่างเป็นระบบเป็นสิ่งสำคัญมากในการทำ Content Marketing และการวิเคราะห์ข้อมูล ด้วยหลักการดังนี้

1.ใช้ตัวอักษรพิมพ์เล็กทั้งหมด

• ถูก: facebook, google, newsletter
• ผิด: Facebook, Google, Newsletter

2.ห้ามใช้เว้นวรรค (Space)

• ถูก: summer_sale, new_product_launch
• ผิด: summer sale, new product launch

3.ใช้เครื่องหมาย underscore (_) แทนการเว้นวรรค

• ถูก: black_friday_sale
• ผิด: black-friday-sale

4.ตั้งชื่อให้สั้นแต่สื่อความหมาย

• ถูก: fb_jan_sale
• ผิด: facebook_january_big_sale_campaign_2024

การสร้าง UTM URL ด้วยเครื่องมือ

การสร้าง UTM URL สามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่แนะนำคือการใช้เครื่องมือที่ Google เตรียมไว้ให้

1.Google Campaign URL Builder

• เข้าไปที่เว็บไซต์ Campaign URL Builder
• กรอกข้อมูล URL และพารามิเตอร์ต่างๆ
• คัดลอก URL ที่ได้ไปใช้งาน

2.Google Sheets Template

• สร้างตารางเก็บข้อมูล UTM ทั้งหมด
• ใช้สูตรสร้าง URL อัตโนมัติ
• ติดตามและจัดการ UTM ได้ง่าย

การวิเคราะห์ผลลัพธ์ด้วย Google Analytics 4

การวัดผลแคมเปญการตลาดใน GA4 มีความแตกต่างจากเวอร์ชั่นเก่าอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในส่วนของการวิเคราะห์ UTM Parameters การเข้าใจวิธีการดูรายงานและการนำข้อมูลไป

รายงานหลักสำหรับการวิเคราะห์ UTM ใน GA4

GA4 ได้แบ่งรายงานการวิเคราะห์ traffic ออกเป็น 2 ส่วนหลัก เพื่อให้เราเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นของการเดินทางของผู้ใช้

1.รายงานการได้ผู้ใช้ใหม่ (User Acquisition Report)

• แสดงข้อมูลผู้ใช้ที่เข้ามาครั้งแรก (First-time Users)
• ใช้มิติ “กลุ่มแชแนลเริ่มต้นของผู้ใช้ครั้งแรก”
• เหมาะสำหรับวิเคราะห์ประสิทธิภาพการดึงผู้ใช้ใหม่

2.รายงานการเข้าชม (Traffic Acquisition Report)

• แสดงข้อมูลการเข้าชมในแต่ละเซสชัน
• ใช้มิติ “กลุ่มแชแนลเริ่มต้นของเซสชัน”
• เหมาะสำหรับวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานโดยรวม

วิธีการเข้าถึงและวิเคราะห์รายงาน UTM ใน GA4

การเข้าถึงรายงานทำได้ตามขั้นตอนดังนี้

1.ไปที่เมนู Reports > Life cycle > Acquisition

2.เลือกรายงานที่ต้องการ

• Traffic acquisition สำหรับดูภาพรวม traffic
• User acquisition สำหรับวิเคราะห์ผู้ใช้ใหม่

3.ใช้ Secondary dimension เพื่อดูข้อมูลเชิงลึก:

• Session source / medium
• Campaign
• Landing page
• User type

ข้อควรระวังในการใช้งาน UTM

แม้ว่า UTM จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็มีข้อควรระวังในการใช้งาน

1. ไม่ควรใช้ UTM กับลิงก์ภายในเว็บไซต์
2. หลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูลส่วนตัวในพารามิเตอร์
3. ระวังการใช้อักขระพิเศษที่อาจทำให้ URL เสีย
4. ไม่ควรใช้ URL ที่มี UTM โดยตรง ควรทำเป็น Short URL ก่อน

สรุปบทความ

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการทำ SEO และโฆษณาออนไลน์  ADCHARIYA ขอแนะนำว่า UTM Tracking เป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับการทำการตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน เพราะช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าและประสิทธิภาพของแคมเปญได้อย่างแม่นยำ

หากคุณต้องการความช่วยเหลือในการวางกลยุทธ์การตลาดออนไลน์หรือการทำ Performance Marketing ทีมงานของเราพร้อมให้คำปรึกษา ด้วยประสบการณ์การเป็น ดิจิทัลเอเจนซี่ ที่ดูแลลูกค้ามาหลากหลายอุตสาหกรรม เราพร้อมช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญวันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาฟรีได้เลย 

• เบอร์โทร : 02 028 7768
• Email : analytics@cms.adchariya.co.th
• Line Official Account : @adchariya (มี @ ด้วยนะ)