ทุกคลิกที่เกิดขึ้นในแคมเปญโฆษณา Google Ads ล้วนมีค่าใช้จ่ายทั้งนั้น แต่คุณรู้หรือไม่ว่าหลาย ๆ คลิกที่ได้รับนั้น มาจากกลุ่มคนที่ไม่ได้สนใจซื้อสินค้าหรือบริการของคุณเลย และทำให้คุณเสียค่าโฆษณาไปฟรี ๆ ในฐานะที่ ADCHARIYA เป็นดิจิทัลเอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญด้านการยิงโฆษณาออนไลน์ เราจึงอยากจะพาคุณมาไปทำความรู้จักว่า Negative Keywords คืออะไร Negative Keywords คือตัวช่วยที่จะทำให้โฆษณาของคุณไปแสดงอยู่บนหน้าจอของกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ คลิกที่ได้คือคลิกจากคนที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าของคุณจริง ๆ จึงทำให้คุณประหยัดงบประมาณในการยิงโฆษณาไปได้มาก ผลลัพธ์ที่ได้ก็คุ้มค่า และยังช่วยเพิ่ม ROI ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
Negative Keywords คืออะไร
Negative Keywords คือเครื่องมือช่วยคัดกรองคีย์เวิร์ดหรือคำค้นหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจออกไป เพื่อไม่ให้โฆษณาปรากฏในผลการค้นหาเหล่านั้น ต่างจากคีย์เวิร์ดทั่วไปที่ระบุว่าโฆษณาควรแสดงเมื่อไหร่ แต่ Negative Keywords จะบอกว่าไม่ควรแสดงในสถานการณ์ไหนบ้าง เช่น ร้านขายนาฬิกาหรูอาจใช้ “นาฬิกามือสอง” หรือ “นาฬิการาคาถูก” เป็น Negative Keywords เพื่อไม่ให้โฆษณาไปปรากฏแก่ผู้ที่กำลังมองหานาฬิกาที่มีราคาไม่แพง
การใช้ Negative Keywords จึงช่วยให้นักการตลาดและเจ้าของธุรกิจประหยัดงบประมาณในการโฆษณาได้เป็นอย่างดี เนื่องจากไม่ต้องเสียเงินไปกับการแสดงโฆษณาให้กลุ่มคนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย เมื่อโฆษณาแสดงผลได้ตรงกลุ่มหรือแสดงบนหน้าจอของคนที่สนใจในสินค้าของคุณจริง ๆ แล้ว อัตราการคลิก (CTR) และอัตราการเปลี่ยนผู้ชมเป็นลูกค้า (Conversion Rate) ก็จะสูงขึ้นด้วย ทำให้คุณได้ลูกค้าที่มีคุณภาพและมีโอกาสซื้อสินค้ามากขึ้น
ข้อดีของการใช้ Negative Keywords
การใช้ Negative Keywords กลายเป็นเทคนิคสำคัญที่นักการตลาดต่างใช้กัน เนื่องจากมันทำให้ประสิทธิภาพแคมเปญโฆษณาดีขึ้นและสร้างผลลัพธ์ได้อย่างคุ้มค่า มาดูกันว่าการใช้ Negative Keywords มีข้อดีในด้านใดบ้าง
ประหยัดงบประมาณโฆษณา
การใช้ Negative Keywords ช่วยกรองผู้ที่ไม่ใช่ลูกค้าของคุณออกไป คุณจึงไม่ต้องเสียเงินไปกับคลิกที่ไม่มีโอกาสซื้อสินค้า เงินทุกบาทจะถูกใช้ไปกับคนที่มีโอกาสกลายเป็นลูกค้าจริง ๆ เท่านั้น
เพิ่มอัตราการคลิกและการซื้อสินค้า
เมื่อโฆษณาแสดงเฉพาะกับคนที่กำลังหาสิ่งที่คุณขายจริง ๆ โอกาสที่พวกเขาจะคลิกและซื้อสินค้าก็จะสูงขึ้น ทำให้แคมเปญของคุณได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น คุ้มค่ายิ่งขึ้น
ทำให้โฆษณามีคุณภาพขึ้น
Google ชอบโฆษณาที่ตรงกับสิ่งที่คนกำลังค้นหา การใช้ Negative Keywords ช่วยให้โฆษณาของคุณปรากฏเฉพาะในการค้นหาที่เกี่ยวข้อง ทำให้ได้คะแนนคุณภาพสูง ซึ่งจะช่วยให้โฆษณาอยู่ในตำแหน่งที่ดีและมีราคาถูกลงได้
เข้าถึงลูกค้าที่ใช่อย่างแม่นยำ
Negative Keywords ช่วยให้คุณกรองคนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายออกไป ทำให้คุณสามารถเขียนข้อความโฆษณาที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าของคุณมากขึ้น พร้อมกับช่วยกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม
ลดอัตราการตีกลับ (Bounce Rate)
การใช้ Negative Keywords ช่วยให้ผู้ที่คลิกโฆษณาของคุณมีความตั้งใจสูงและสนใจสินค้าจริง ๆ ส่งผลให้พวกเขาใช้เวลาบนเว็บไซต์นานขึ้นและมีอัตราการตีกลับต่ำลง นอกจากจะส่งผลดีต่อโฆษณาแล้ว ยังส่งผลดีต่อการทำ SEO บนเว็บไซต์ด้วย
แข่งขันกับคู่แข่งได้ดีขึ้น
คุณสามารถ Negative Keywords คำที่ไม่ใช่จุดแข็งหรือสินค้าหลักของคุณออก เพื่อลดการแข่งขันกับคู่แข่ง และทุ่มงบประมาณไปให้คีย์เวิร์ดที่มีโอกาสชนะคู่แข่งมากกว่าได้
Negative Keywords มีกี่ประเภท
Negative Keywords แบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลัก โดยแต่ละประเภทมีวิธีการทำงานและระดับการกรองคีย์เวิร์ดที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามนอกจากการใช้ Negative Keywords ในแคมเปญค้นหาแล้ว คุณยังสามารถใช้ในแคมเปญดิสเพลย์ได้ด้วย โดยในแคมเปญดิสเพลย์ ระบบจะไม่แสดงโฆษณาบนหน้าเว็บที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับ Negative Keywords ที่คุณกำหนด แม้คำนั้นจะไม่ปรากฏบนหน้าเว็บโดยตรงก็ตาม
1. Negative Broad Match
Negative Broad Match เป็นประเภทพื้นฐานที่ระบบจะใช้โดยอัตโนมัติถ้าคุณไม่กำหนดเครื่องหมายพิเศษใด ๆ โฆษณาของคุณจะไม่แสดงเมื่อคำค้นหาประกอบด้วยคำทั้งหมดที่คุณระบุเป็น Negative Keyword แม้คำเหล่านั้นจะอยู่ในลำดับใดก็ตาม ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณขายโทรศัพท์มือถือใหม่และกำหนด Negative Keyword เป็น “มือถือมือสอง” โฆษณาของคุณจะไม่แสดงเมื่อมีการค้นหา “ราคามือถือมือสองถูก ๆ” หรือ “มือสองมือถือยี่ห้อไหนดี” แต่อาจยังแสดงเมื่อมีการค้นหา “มือถือรุ่นใหม่” หรือ “ขายของมือสอง” เพราะไม่ได้มีคำทั้งหมดจาก Negative Keyword
2. Negative Phrase Match
คุณต้องใส่เครื่องหมายคำพูด ” ” ล้อมรอบคำที่ต้องการ โฆษณาของคุณจะไม่แสดงเมื่อคำค้นหามีคำหรือวลีในลำดับเดียวกับที่คุณระบุ แม้จะมีคำอื่นเพิ่มเติมก่อนหน้าหรือต่อท้ายก็ตาม ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณขายคอร์สเรียน SEO แบบสอนสด (Public Training) และกำหนด Negative Keyword เป็น “คอร์สเรียนออนไลน์” โฆษณาของคุณจะไม่แสดงเมื่อมีการค้นหา “คอร์สเรียนออนไลน์ราคาถูก” หรือ “แนะนำคอร์สเรียนออนไลน์” แต่อาจยังแสดงเมื่อมีการค้นหา “คอร์สเรียนสดออนไลน์” หรือ “คอร์ส เรียน ออนไลน์” (มีช่องว่างระหว่างคำที่ไม่ตรงกับรูปแบบที่กำหนด)
3. Negative Exact Match
คุณต้องใส่เครื่องหมายวงเล็บเหลี่ยม [ ] ล้อมรอบคีย์เวิร์ดที่ต้องการ โฆษณาของคุณจะไม่แสดงเฉพาะเมื่อคำค้นหาตรงกับคำหรือวลีที่คุณระบุเท่านั้น ไม่มีคำอื่นเพิ่มเติม ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณขายคอนโดในกรุงเทพฯ และกำหนด Negative Keyword เป็น [คอนโดให้เช่า] โฆษณาของคุณจะไม่แสดงเฉพาะเมื่อมีการค้นหา “คอนโดให้เช่า” เท่านั้น แต่จะยังแสดงเมื่อมีการค้นหา “คอนโดให้เช่ารายเดือน” หรือ “คอนโดให้เช่าใกล้ BTS”
Negative Keywords Structure คืออะไร
Negative Keywords Structure คือการจัดระบบคีย์เวิร์ดที่คุณไม่ต้องการให้โฆษณาของคุณไปปรากฏ ซึ่งจัดแบ่งออกเป็นตามระดับต่าง ๆ ในแพลตฟอร์มโฆษณา เพื่อควบคุมการแสดงผลโฆษณาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยระดับของ Negative Keywords Structure สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ ดังนี้
1. ระดับบัญชี (Account Level)
Negative Keywords ที่ตั้งในระดับบัญชี จะมีผลกับทุกแคมเปญในบัญชีของคุณ เหมาะกับคำที่ไม่อยากให้แสดงโฆษณาในทุกกรณี เช่น คำหยาบ หรือคำที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณเลย ควรระวังไม่ใส่คำที่อาจเกี่ยวข้องกับบางแคมเปญในระดับนี้ เพราะจะทำให้โฆษณาไม่แสดงทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้พลาดโอกาสทางธุรกิจได้
2. ระดับแคมเปญ (Campaign Level)
Negative Keywords ในระดับแคมเปญจะมีผลเฉพาะกับแคมเปญที่กำหนด ช่วยป้องกันไม่ให้แคมเปญต่าง ๆ ของคุณแข่งกันเอง เหมาะสำหรับแยกกลุ่มสินค้าหรือบริการที่ต่างกัน เช่น ถ้าคุณมีแคมเปญรองเท้าวิ่งและรองเท้าลำลอง คุณสามารถใส่ “ลำลอง” เป็น Negative Keyword ในแคมเปญรองเท้าวิ่ง และใส่ “วิ่ง” เป็น Negative Keyword ในแคมเปญรองเท้าลำลองได้
3. ระดับกลุ่มโฆษณา (Ad Group Level)
ระดับกลุ่มโฆษณาเป็นระดับที่เจาะจงที่สุด โดย Negative Keywords จะมีผลเฉพาะกับกลุ่มโฆษณานั้น ๆ เท่านั้น ช่วยกรองคำค้นหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับสินค้าเฉพาะในกลุ่มโฆษณานั้น และป้องกันไม่ให้กลุ่มโฆษณาในแคมเปญเดียวกันแข่งกันเอง เช่น ในแคมเปญกระเป๋า ถ้ามีกลุ่มโฆษณาสำหรับกระเป๋าเป้และกระเป๋าสะพาย คุณสามารถใส่ “สะพาย” เป็น Negative Keyword ในกลุ่มโฆษณากระเป๋าเป้ และใส่ “เป้” เป็น Negative Keyword ในกลุ่มโฆษณากระเป๋าสะพาย
สรุป
Negative Keywords คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้โฆษณา Google Ads ของคุณแสดงเฉพาะกับคนที่มีแนวโน้มจะสนใจสินค้าหรือบริการของคุณจริง ๆ โดยจะช่วยกรองคำค้นหาที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป ทำให้คุณไม่ต้องเสียเงินไปกับคลิกที่ไม่มีโอกาสสร้างยอดขาย เคล็ดลับง่าย ๆ คือ ควรตั้ง Negative Keywords ตั้งแต่เริ่มทำแคมเปญและหมั่นตรวจสอบ Search Term Report ทุกสัปดาห์ เพื่อดูว่ามีคำค้นหาแปลก ๆ อะไรบ้างที่ทำให้โฆษณาของคุณแสดง แล้วนำมาเพิ่มเป็น Negative Keywords การทำแบบนี้สม่ำเสมอจะช่วยให้การโฆษณาของคุณมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ากับงบประมาณมากขึ้นนั่นเอง

Leave a Reply