สังเกตไหมว่าช่วงหลัง ๆ มานี้ เวลาที่เราเจอคอนเทนต์ครีเอเตอร์หรืออินฟลูเอนเซอร์รีวิวสินค้าอะไรบนโซเชี่ยลมีเดีย (Social Media) มักจะตามมาด้วยการบอกพิกัดหรือแหล่งที่มาของสินค้าด้วยการแปะลิงก์ (Link) หรือ โค้ด (Code) ซึ่งคุณรู้หรือไม่ว่าลิงก์หรือโค้ดเหล่านั้น เป็นหนึ่งในวิธีการสร้างรายได้เสริมบนโลกออนไลน์ หรือที่เราเรียกกันว่า “Affiliate Marketing” ซึ่งคุณจะทำเมื่อไหร่ก็ได้ตามสะดวกและแทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย นอกจากนี้ บุคคลธรรมดาทั่วไปอย่างเรา ๆ ก็สามารถเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองด้วยวิธีนี้ได้ด้วยนะ! แล้ว Affiliate Marketing คืออะไร, Affiliate Marketing มีหลักการทำงานอย่างไร และ Affiliate Marketing ได้เงินจริงไหม? ตามมาหาคำตอบได้ในบทความนี้กับ ADCHARIYA (แอดฉริยะ) ได้เลย
Affiliate Marketing คืออะไร
Affiliate Marketing คือกลยุทธ์การตลาดแบบใหม่ที่ผู้โปรโมตสินค้าหรือพันธมิตร (Affiliate) จะได้รับค่าตอบแทนจากการแนะนำลูกค้าให้กับเจ้าของสินค้า (แบรนด์หรือแพลตฟอร์ม) โดยรายได้จากการทำ Affiliate จะอยู่ในรูปแบบค่าคอมมิชชั่นตามเปอร์เซ็นต์ที่ตกลงกัน ซึ่งรายได้จะเกิดขึ้นหลังจากที่คำสั่งซื้อสมบูรณ์แล้วเท่านั้น (ลูกค้าได้รับสินค้าเรียบร้อย)
เราจะเห็นได้ว่า Affiliate Marketing คือกลยุทธ์การตลาดแบบ Win-Win เจ้าของสินค้ามียอดขายเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันผู้โปรโมตสินค้าก็ได้รายได้จากการทำหน้าที่เป็นนายหน้าแนะนำสินค้า โดยที่ไม่ต้องสต๊อกสินค้าหรือจัดการระบบขายเอง โดยในปัจจุบันนี้ Affiliate Marketing สามารถพบได้ทั้งบน Facebook, TikTok, Instagram, Lemon8, Website และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee, Lazada และ TikTok Shop
องค์ประกอบของ Affiliate Marketing มีอะไรบ้าง
หลาย ๆ คนคงจะสงสัยว่า Affiliate Marketing มีหลักการทำงานอย่างไร? คุณต้องมาทำความรู้จักกับ 4 องค์ประกอบหลักของ Affiliate Marketing ก่อน เมื่อคุณอ่านทำความเข้าใจแต่ละองค์ประกอบครบแล้ว คุณก็จะทราบว่า Affiliate Marketing มีหลักการทำงานอย่างไร
1. เจ้าของสินค้าหรือแบรนด์
เจ้าของสินค้าหรือแบรนด์ (Merchant/Advertiser) คือผู้ที่มีสินค้าหรือบริการและต้องการเพิ่มยอดขาย โดยยินดีแบ่งรายได้บางส่วนให้กับคนที่ช่วยหาลูกค้ามาให้ ซึ่งเจ้าของสินค้าจะอาจจะเป็นผู้กำหนดอัตราค่าคอมมิชชั่น กฎระเบียบ และเงื่อนไขต่าง ๆ ในการทำงานร่วมกับ Affiliate รวมถึงจัดเตรียมระบบติดตามผลและการจ่ายค่าตอบแทน อย่างไรก็ตาม บางครั้ง Affiliate Platform อย่าง Shopee อาจจะเป็นผู้กำหนดอัตราค่าคอมมิชชั่นและเงื่อนไขต่าง ๆ เอง โดยที่ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าของสินค้าได้ เนื่องจาก Shopee ต้องการให้เกิดยอดขายและคำสั่งซื้อบนแพลตฟอร์ม ไม่ว่าลูกค้าจะซื้อสินค้าอะไรไปก็ตาม
2. ผู้โปรโมตสินค้าหรือนายหน้า
ผู้โปรโมตสินค้าหรือนายหน้า (Affiliate/Publisher) คือผู้ที่นำสินค้าไปโปรโมตผ่านช่องทางของตนเอง เพื่อสร้างรายได้ ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้งอินฟลูเอนเซอร์, KOL, Content Creator, เจ้าของเว็บไซต์ หรือบุคคลทั่วไปก็ได้ โดยพวกเขาจะได้รับค่าคอมมิชชั่นเมื่อมีคนคลิกที่ Affiliate Link และทำตามเงื่อนไขที่กำหนด
3. ตัวกลางระหว่างแบรนด์และนายหน้า
ตัวกลางระหว่างแบรนด์และนายหน้า (Affiliate Network) คือแพลตฟอร์มเจ้าของ Affiliate Program ตัวอย่างเช่น Shopee, Lazada และ TikTok Shop ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างแบรนด์และนายหน้า รวมถึงคอยช่วยเหลือ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
4. ลูกค้าหรือผู้ที่ซื้อสินค้าและบริการ
ลูกค้าหรือผู้ที่ซื้อสินค้าและบริการ (Customer) คือบุคคลที่ทำการคลิกเข้าไปที่ Affiliate Link หรือนำ Affiliate Code จากผู้โปรโมตไปค้นหา และทำการซื้อสินค้าชิ้นนั้นหรือซื้อสินค้าตัวอื่น ๆ บนแพลตฟอร์มนั้น ซึ่งระบบของ Affiliate จะรู้ว่าคุณคลิกเข้ามาซื้อสินค้าผ่านผู้โปรโมตคนใดและนำไปคำนวณค่าคอมมิชชั่นให้ผู้โปรโมตคนนั้น สำหรับใครที่กังวลว่าคลิกลิงก์ไปแล้วจะเสียเงินค่าคอมมิชชั่นให้นายหน้าหรือเปล่า? คำตอบคือลูกค้าจะไม่เสียเงินหรือเสียเปรียบอะไรเลย เพราะทางแพลตฟอร์มหรือร้านค้าจะเป็นคนจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับนายหน้าเอง
Affiliate Marketing มีกี่ประเภท
Affiliate Marketing สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทตามระดับความเกี่ยวข้องและความผูกพันระหว่างผู้โปรโมตกับสินค้า โดยแต่ละประเภทมีรูปแบบการทำงานและประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน ทั้งยังเหมาะกับกลยุทธ์การตลาดและเป้าหมายทางธุรกิจที่แตกต่างกันด้วย
- Unattached Affiliate Marketing ผู้โปรโมตไม่จำเป็นต้องมีความรู้หรือใช้สินค้าจริง เพียงแค่นำลิงก์ไปวางตามช่องทางต่าง ๆ เท่านั้น
- Related Affiliate Marketing ผู้โปรโมตมีความรู้ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินค้า และมีผู้ติดตามที่สนใจในหมวดหมู่เดียวกัน
- Involved Affiliate Marketing ผู้โปรโมตทดลองใช้สินค้าจริงและแชร์ประสบการณ์จริง
Affiliate Marketing ได้เงินจริงไหม?
ในฐานะผู้โปรโมตสินค้า การทำ Affiliate Marketing ได้เงินจริง ยิ่งคุณมีผู้ติดตามมากและมีคนมองเห็นโพสต์ของคุณมากเท่าไหร่ จำนวนค่าคอมมิชชั่นที่จะได้รับก็สูงมากขึ้นเท่านั้น คนที่เริ่มทำ Affiliate แรก ๆ อาจจะได้รายได้หลักร้อยต่อเดือน แต่ถ้าคุณจับจุดรู้ใจผู้ติดตามและรู้ว่าควรทำคอนเทนต์อะไร โปรโมตสินค้าแบบไหนด้วยล่ะก็ ค่าคอมมิชชั่นก็สามารถสูงได้ถึงหลักล้านต่อเดือนได้ แต่โดยส่วนมากก็จะอยู่ที่หลักหมื่น-หลักแสนต่อเดือน และสำหรับรูปแบบรายได้จากการทำ Affiliate Marketing นั้น จะมีอยู่ 3 รูปแบบ ดังนี้
- รายได้จากการขาย (Pay per Sale) สามารถพบได้บ่อยที่สุด ผู้โปรโมตจะได้รับส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขายที่เกิดขึ้น เช่น 5-20% ของมูลค่าสินค้า
- รายได้จากการหาลูกค้า (Pay per Lead) ผู้โปรโมตจะได้รับค่าตอบแทนเมื่อมีคนคลิกลิงก์และทำตามที่กำหนด เช่น สมัครสมาชิก กรอกแบบฟอร์ม หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน โดยไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้า (มักจะพบในสินค้าประเภทซอฟต์แวร์ หรือโปรแกรมต่าง ๆ )
- รายได้จากการคลิก (Pay per Click) ผู้โปรโมตจะได้รับค่าตอบแทนทุกครั้งที่มีคนคลิกลิงก์ ไม่ว่าจะเกิดการซื้อขายหรือไม่ก็ตาม
แชร์เทคนิคการทำ Affiliate Marketing ในปี 2025
- โปรโมตสินค้าที่คุณใช้จริงและเกี่ยวข้องกับคอนเทนต์อื่น ๆ ในช่อง
- เน้นข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้ชม จูงใจให้ซื้ออย่างธรรมชาติ อย่ายัดเยียดการขายมากเกินไป
- แสดงวิธีใช้สินค้าหรือทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยสินค้าที่อยากโปรโมต
- เปรียบเทียบสินค้าหลาย ๆ แบรนด์ในกลุ่มเดียวกัน โดยบอกจุดเด่นจุดด้อยอย่างตรงไปตรงมา
- เลือกแพลตฟอร์มในการโปรโมตสินค้าให้เหมาะสมกับสินค้า
สรุป
เห็นไหมว่า Affiliate Marketing คือวิธีสร้างรายได้แบบใหม่ที่ทำได้ง่าย ๆ ไม่ต้องเดินทางไกล แถมไม่ต้องลงทุนสต๊อกสินค้าและทำระบบร้านค้าเองเลย เพียงแค่หยิบจับสินค้าที่ใช้งานอยู่แล้ว มาโปรโมตผ่าน Affiliate Program ลองเลือกแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเยอะ ๆ หรือมีผู้ติดตามจำนวนมาก การทำ Affiliate ของคุณก็จะง่ายและเห็นผลลัพธ์ได้เร็วยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น การทำ Affiliate Marketing ในปี 2025 ทำได้ง่ายมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน เพราะหลาย ๆ แพลตฟอร์มล้วนเอื้อประโยชน์ให้กับผู้โปรโมตสินค้ามากขึ้น Affiliate Marketing ตัวอย่างเช่นถ้าคุณจะทำ Affiliate บน Shopee คุณก็สามารถสร้างรายได้ผ่านทั้งแบบแปะลิงก์ แปะโค้ด และรวมไปถึงการทำ Video Shopee ด้วย

Leave a Reply