micro influencer

รู้จัก Micro Influencer คือใคร ตัวช่วยปั้นแบรนด์ชั้นยอดในยุคนี้

กลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) ที่กำลังมาแรงบนโลกออนไลน์ในตอนนี้ คงไม่พ้น “Influencer Marketing” หรือ “การทำการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์” โดยจะเป็นการที่แบรนด์คัดเลือกเหล่าคนดังบนโซเซียลมีเดีย (Social Media) มาสร้างคอนเทนต์รีวิวโปรโมตสินค้าให้เป็นที่รู้จัก แต่อินฟลูเอนเซอร์ก็มีอยู่หลายประเภท แบ่งระดับตามยอดผู้ติดตาม เพราะยิ่งมีผู้ติดตามมาก ยิ่งมีคนมองเห็นมาก และค่าใช้จ่ายก็แพงขึ้น อาทิ Nano Influencer, Micro Influencer, Macro Influencer ฯลฯ สำหรับบทความนี้ ADCHARIYA (แอดฉะริยะ) จะชวนคุณมาทำความรู้จักว่า Micro Influencer คือใคร? Micro Influencer มียอดฟอลเท่าไหร่? ต่างกับอินฟลูเอนเซอร์อื่น ๆ อย่างไร พร้อมแนะนำวิธีเลือก Micro Influencer ให้ตอบโจทย์แคมเปญของธุรกิจในปี 2025

Micro Influencer คือใคร

Micro Influencer คือคนที่มีผู้ติดตามบัญชีโซเซียลมีเดีย ตั้งแต่ 10,001 – 50,000 คน ซึ่งพวกเขาไม่ได้เป็นคนดัง ดารา นักร้อง หรือผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียง แต่เป็นคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำคอนเทนต์เก่ง สร้างคอนเทนต์ได้ตอบโจทย์คนดู จึงทำให้มีผู้ติดตามมาก โดยคอนเทนต์ที่สร้างอาจจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบอย่างความสวยความงาม แฟชั่น อาหาร การท่องเที่ยว หรือจะเป็นการบอกเล่าไลฟ์สไตล์และสิ่งที่พบเจอในชีวิตประจำวันก็ได้ (ขึ้นอยู่กับ Micro Influencer แต่ละคนว่าอยากจะนำเสนออะไร)

เมื่อ Micro Influencer รีวิวสินค้าหรือบริการอะไร ผู้ติดตามของพวกเขามักจะเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น กดไลก์ กดแชร์ จนทำให้คอนเทนต์นั้นมียอด Engagement สูง และมีโอกาสที่ผู้ใช้งานคนอื่นในแพลตฟอร์มจะมองเห็นเช่นกัน นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับสินค้าที่นำเสนอและทำให้แบรนด์ที่จ้างเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย แบรนด์ต่าง ๆ จึงนิยมจ้าง Micro Influencer ในการโปรโมตสินค้าและบริการ

Micro Influencer ต่างกับ Influencer ระดับอื่นอย่างไร

Influencer แบ่งออกได้เป็นหลายประเภท (หรือบางคนอาจจะเรียกว่าระดับหรือ Influencer Tier) หลัก ๆ แล้วจะแบ่งออกเป็น 5 ประเภทตามยอดผู้ติดตาม (Follower) คือ Nano Influencer, Micro Influencer, Mid-Tier Influencer, Macro Influencer และ Mega Influencer หากถามว่า Micro Influencer ต่างกับ Influencer ระดับอื่นอย่างไร คำตอบจะอยู่ที่ “ยอดผู้ติดตาม” และ “โอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย” นั่นเอง ลองมาดูกันว่าอินฟลูเอนเซอร์แต่ละประเภท มียอดผู้ติดตามอยู่ที่เท่าไหร่ และเหมาะกับการจ้างงานในจุดประสงค์แบบใด โดยไล่ตั้งแต่ระดับที่เล็กที่สุดไปจนถึงระดับที่ใหญ่ที่สุด

  1. Nano Influencer (ผู้ติดตาม 1,000 – 10,000 คน) เหมาะสำหรับแบรนด์ที่งบน้อย ต้องการจ้างอินฟลูเอนเซอร์จำนวนมากในครั้งเดียว เน้นสร้างการรับรู้ในวงกว้าง
  2. Micro Influencer (ผู้ติดตาม 10,001 – 50,000 คน) เริ่มมีแนวทางของคอนเทนต์ที่ชัดเจน เหมาะกับแบรนด์ที่มองหาอินฟลูเอนเซอร์ที่เข้ากับสินค้าหรือบริการ ในเรทราคาไม่สูงมาก
  3. Mid-Tier Influencer (ผู้ติดตาม 50,001 – 100,000 คน) ติดตามเริ่มกว้างและหลากหลายมากขึ้นค่าตัวสูงขึ้น เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจเฉพาะด้าน
  4. Macro Influencer (ผู้ติดตาม 100,001 – 1,000,000 คน) มีความน่าเชื่อถือสูง เหมาะกับแคมเปญขนาดใหญ่ที่ต้องการสร้างการรับรู้ในระดับประเทศ สร้างยอดขายได้ดีในระยะเวลาสั้น ๆ
  5. Mega Influencer (ผู้ติดตาม 1,000,001 คนขึ้นไป) มักจะเป็น Celebrity ดาราที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ค่าใช้จ่ายสูง แต่คุ้มค่ากับผลลัพธ์

ทำไม Micro Influencer ถึงได้รับความนิยมสูง

ช่วงนี้ Micro Influencer มาแรงในวงการการตลาดออนไลน์ เมื่อก่อนแบรนด์มักจะจ้างแต่ดาราหรือคนดังที่มีผู้ติดตามเป็นล้าน (Mega Influencer) แต่ตอนนี้หลายแบรนด์เริ่มหันมาสนใจคนธรรมดาที่มีผู้ติดตามหลักพันถึงหลักหมื่นแทน ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? มาดูสาเหตุที่ทำให้ Micro Influencer กลายเป็นดาวรุ่งของวงการอินฟลูเอนเซอร์กัน

คนติดตามมีปฏิสัมพันธ์จริง

Micro Influencer มักจะตอบแชตและคอมเมนต์ของคนติดตาม ทำให้กลุ่มผู้ติดตามรู้สึกสนิทสนมและพร้อมที่จะโต้ตอบ เวลาพวกเขาโพสต์อะไร คนเข้ามากดไลก์ คอมเมนต์ และแชร์กันด้วยความรู้สึกอยากทำจริง ๆ ต่างจากคนดังที่มีคนติดตามเยอะแต่ไม่ค่อยมีใครมีส่วนร่วมกับโพสต์มากนัก การโพสต์สินค้าจึงมีคนสนใจดูและถามถึงมากกว่า

ค่าจ้างสมเหตุสมผล

การจ้าง Micro Influencer จะถูกกว่าจ้างคนดังหรือดาราอย่างมาก บางครั้งคุณอาจจ้าง Micro Influencer ได้ถึง 10 คนด้วยงบประมาณที่เท่ากับจ้างคนดังแค่คนเดียว ทำให้เข้าถึงกลุ่มคนได้หลากหลายมากขึ้น และยังไม่มีค่าใช้จ่ายแฝงอื่น ๆ ที่มักมากับคนดัง เช่น ค่าช่างแต่งหน้า ค่าทีมงาน หรือข้อเรียกร้องพิเศษต่าง ๆ

ตรงกลุ่มเป้าหมายชัดเจน

คนที่ตาม Micro Influencer มักจะติดตามตามเพราะชอบในสไตล์หรือเนื้อหาที่พวกเขานำเสนอจริง ๆ เช่น คนที่ตามบล็อกเกอร์ความงามก็มักจะเป็นคนที่ชอบเรื่องการแต่งหน้าหรือดูแลผิว ต่างจากการตามดาราที่คนอาจตามเพราะชื่นชอบตัวบุคคลแต่ไม่ได้สนใจในสิ่งที่พวกเขานำเสนอ การจ้าง Micro Influencer จึงช่วยให้แบรนด์เข้าถึงคนที่มีโอกาสซื้อสินค้าสูงกว่า

รีวิวดูน่าเชื่อถือ

คนส่วนใหญ่รู้สึกว่า Micro Influencer เป็นคนทั่วไปที่พูดในสิ่งที่ตัวเองคิดจริง ๆ ต่างจากคนดังที่หลายคนอาจมองว่ารีวิวเพราะได้เงิน Micro Influencer มักมีกลุ่มผู้ติดตามที่รู้สึกเหมือนเพื่อนมาบอกต่อ ทำให้คำแนะนำของพวกเขามีผลต่อการตัดสินใจซื้อค่อนข้างมาก คนพร้อมจะเชื่อคำแนะนำจากคนที่พวกเขาติดตามมานาน

คอนเทนต์ดูเป็นชีวิตจริง

คอนเทนต์ของ Micro Influencer มักถ่ายในสถานที่จริง ไม่ได้จัดฉากหรือตกแต่งมากเกินไป ทำให้คนดูรู้สึกได้ว่านี่คือการใช้งานสินค้าในชีวิตประจำวันจริง ๆ เวลาพวกเขารีวิวว่าครีมทาหน้าใช้ดี คนดูก็รู้สึกว่าเขาใช้แล้วเห็นผลจริง ๆ ไม่ใช่แค่การโฆษณา

สร้างความสัมพันธ์ระยะยาว

Micro Influencer มักเลือกทำงานกับแบรนด์ที่พวกเขาชอบหรือใช้อยู่แล้ว ทำให้การนำเสนอเป็นธรรมชาติและน่าเชื่อถือ การร่วมงานกับ Micro Influencer อย่างต่อเนื่องช่วยให้แบรนด์สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้บริโภค ดีกว่าการจ้างคนดังมารีวิวครั้งเดียวแล้วหายไป

วิธีเลือก Micro Influencer ให้เหมาะกับธุรกิจ

ทุกคนสามารถเป็นอินฟลูเอนเซอร์ได้และอินฟลูเอนเซอร์ทุกคนสามารถเลื่อนระดับขึ้นได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีอินฟลูเอนเซอร์ให้คุณเลือกนับไม่ถ้วน แล้วแบบนี้แบรนด์ควรเลือกอินฟลูเอนเซอร์อย่างไร เลือกจากความชื่นชอบส่วนตัวได้หรือไม่ หรือควรพิจารณาจากอะไรบ้าง เพื่อให้แคมเปญประสบความสำเร็จมากที่สุด

1. กำหนดเป้าหมายทางการตลาดก่อน

ต้องรู้ก่อนว่าคุณหวังอะไรจากการใช้ Micro Influencer เช่น อยากให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น อยากเพิ่มยอดขาย หรืออยากแนะนำสินค้าใหม่ เพราะเป้าหมายที่ต่างกันต้องใช้คนที่มีความถนัดต่างกัน บางคนเก่งเรื่องสร้างกระแส บางคนเก่งเรื่องอธิบายสินค้า บางคนเก่งเรื่องโน้มน้าวใจให้คนซื้อ การกำหนดเป้าหมายให้ชัดจะช่วยให้คุณเลือกคนได้ตรงจุด

2. ตรวจสอบว่าสไตล์เข้ากับแบรนด์

ไม่ใช่แค่ดูว่ามีคนติดตามเยอะหรือเปล่า แต่ต้องดูว่าบุคลิกและสไตล์การนำเสนอเข้ากับแบรนด์ของคุณไหม เช่น ถ้าขายเสื้อผ้าวัยรุ่นสไตล์เปรี้ยว แต่ไปเลือก Micro Influencer ที่แต่งตัวสุภาพเรียบร้อย เนื้อหาอาจดูไม่สอดคล้องกัน ดูภาพและคลิปเก่า ๆ ของเขาสัก 10-20 โพสต์ จะช่วยให้เข้าใจสไตล์ของเขาได้ดีขึ้น

3. ดูกลุ่มคนที่ติดตามเขา

Micro Influencer ที่ดีไม่จำเป็นต้องมีคนติดตามมากที่สุด แต่ต้องมีคนติดตามที่ตรงกับกลุ่มลูกค้าของคุณ ลองดูว่าคนที่ติดตามเขาเป็นใคร อายุเท่าไร อยู่ที่ไหน สนใจอะไร คุณอาจขอดูสถิติผู้ติดตามจาก Micro Influencer โดยตรง หรือใช้เครื่องมือวิเคราะห์โซเชียลมีเดียช่วย เพื่อให้แน่ใจว่าคนที่ติดตามเขาคือกลุ่มที่คุณอยากเข้าถึง

4. สำรวจการมีส่วนร่วมในโพสต์

อย่าดูแค่จำนวนผู้ติดตาม แต่ให้ดูว่าโพสต์ของเขามีคนกดไลก์ คอมเมนต์ หรือแชร์มากน้อยแค่ไหน บางคนมีคนติดตาม 50,000 คน แต่โพสต์ได้ไลก์แค่ 100 อาจแปลว่าผู้ติดตามไม่ได้สนใจเนื้อหาจริง ๆ หรืออาจมีการซื้อผู้ติดตามปลอม ดูอัตราการมีส่วนร่วมจะช่วยให้รู้ว่า Micro Influencer คนนั้นมีอิทธิพลต่อผู้ติดตามจริงหรือไม่

5. เลือกคนที่ถนัดรูปแบบเนื้อหาที่เหมาะกับสินค้า

สินค้าแต่ละอย่างเหมาะกับการนำเสนอคนละแบบ บางอย่างต้องทำวิดีโอสาธิตวิธีใช้ บางอย่างแค่รูปสวย ๆ ก็พอ ดูว่า Micro Influencer คนไหนถนัดทำเนื้อหาแบบที่เหมาะกับสินค้าของคุณ เช่น ถ้าขายเครื่องสำอาง อาจต้องหาคนที่เก่งเรื่องการแต่งหน้า และถ่ายวิดีโอสาธิตได้อย่างน่าสนใจ

6. พูดคุยเรื่องค่าจ้างให้ชัดเจน

ค่าจ้าง Micro Influencer แต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนคิดเป็นต่อโพสต์ บางคนคิดเป็นแพ็กเกจ บางคนยอมรับสินค้าแทนเงิน (Barter) ตั้งงบไว้ล่วงหน้าและคุยให้ชัดเจนว่าคุณจะได้อะไรบ้างจากการจ่ายเงินจำนวนนี้ เช่น จำนวนโพสต์ ประเภทเนื้อหา ระยะเวลาที่โพสต์จะอยู่บนหน้าฟีด และสิทธิ์ในการใช้เนื้อหานั้นต่อ

7. ดูประวัติการทำงานที่ผ่านมา

ก่อนจ้าง ลองดูผลงานที่ผ่านมา เคยร่วมงานกับแบรนด์อะไรบ้าง ผลตอบรับเป็นอย่างไร มีข่าวไม่ดีหรือเปล่า บางคนอาจดูดีในโซเชียล แต่เคยมีปัญหาเรื่องการส่งงานล่าช้า หรือทำไม่ตรงบรีฟ การเลือกคนที่มีประวัติดีและเป็นมืออาชีพจะช่วยลดความเสี่ยงในการร่วมงาน

8. พิจารณาทำงานร่วมกันระยะยาว

แทนที่จะจ้างหลายคนแบบครั้งเดียวจบ ลองดูว่าคุณสามารถร่วมงานกับ Micro Influencer บางคนแบบต่อเนื่องได้หรือไม่ การทำงานระยะยาวจะช่วยให้เขาเข้าใจแบรนด์ของคุณมากขึ้น และผู้ติดตามก็จะรู้สึกว่าเขาใช้สินค้าของคุณจริง ๆ ไม่ใช่แค่รับจ้างรีวิว ซึ่งจะทำให้เนื้อหาน่าเชื่อถือมากขึ้น

สรุป

สรุปแล้ว Micro Influencer คือตัวช่วยทำการตลาดที่คุ้มค่ามากในยุคนี้ พวกเขาอาจมีผู้ติดตามไม่เยอะเท่าคนดัง แต่คนที่ติดตามมักสนใจและมีส่วนร่วมกับเนื้อหามากกว่า การเลือก Micro Influencer ที่เข้ากับธุรกิจและแคมเปญของคุณจะช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่ม การรีวิวก็ดูน่าเชื่อถือเพราะเหมือนเพื่อนแนะนำ ไม่ใช่การโฆษณา ยิ่งถ้าคุณทำงานร่วมกับพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ก็จะช่วยให้ลูกค้าเชื่อมั่นและเลือกซื้อสินค้าของคุณในระยะยาว