รวมคำศัพท์ SEO พื้นฐานสำหรับมือใหม่

รวมคำศัพท์ SEO 101 พื้นฐานสำหรับมือใหม่ อัปเดตใหม่ล่าสุด 2025

หลายธุรกิจยังคงประสบปัญหาในการทำความเข้าใจและนำ SEO ไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับคำศัพท์เฉพาะทางที่มักเปลี่ยนแปลงตามอัลกอริธึมของ Google ที่มีการอัปเดตอยู่เสมอ บทความนี้ ADCHARIYA เอเจนซี่การตลาดออนไลน์ จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 40 คำศัพท์ SEO พื้นฐานที่สำคัญ อัปเดตใหม่ล่าสุดสำหรับปี 2025 เพื่อให้เจ้าของธุรกิจ ทีมการตลาด และผู้บริหาร สามารถเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ในการวางกลยุทธ์ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดออนไลน์

40 คำศัพท์ SEO พื้นฐาน อัปเดตใหม่ล่าสุด 2025

ในส่วนนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับคำศัพท์ SEO ที่สำคัญ 40 คำ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงเทคนิคขั้นสูง เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจและนำไปใช้ในการพัฒนากลยุทธ์ SEO ของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. SEO (Search Engine Optimization)

การทำ SEO คือกระบวนการปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อให้ติดอันดับสูงในผลการค้นหาของ search engine โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณา การทำ SEO ที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเป้าหมายพบเห็นเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น

2. SERP (Search Engine Results Page)

SERP คือหน้าแสดงผลการค้นหาของ search engine เมื่อผู้ใช้พิมพ์คำค้นหา การเข้าใจองค์ประกอบต่างๆ บน SERP จะช่วยให้คุณวางกลยุทธ์ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. Organic Search

Organic Search คือผลการค้นหาที่แสดงขึ้นโดยธรรมชาติ ไม่ใช่โฆษณา การทำ SEO มีเป้าหมายเพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับสูงในผลการค้นหาแบบ organic นี้

4. Keywords

Keywords หรือคำค้นหา คือคำหรือวลีที่ผู้ใช้พิมพ์ลงใน search engine เพื่อค้นหาข้อมูล การเลือกใช้ keywords ที่เหมาะสมเป็นพื้นฐานสำคัญของการทำ SEO

5. Long-tail Keywords

Long-tail Keywords คือคำค้นหาที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น มักประกอบด้วย 3 คำขึ้นไป แม้จะมีปริมาณการค้นหาน้อยกว่า แต่มักมีโอกาสในการแปลงเป็นลูกค้า (conversion) สูงกว่า

6. On-page SEO

On-page SEO คือการปรับแต่งองค์ประกอบต่างๆ บนหน้าเว็บไซต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการติดอันดับ เช่น การใช้ keywords ในเนื้อหา, การตั้งชื่อ title tag และ meta description

7. Off-page SEO

Off-page SEO คือกิจกรรมที่ทำนอกเว็บไซต์เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและอำนาจของเว็บไซต์ในสายตาของ search engine เช่น การสร้าง backlinks หรือการทำ social media marketing

การทำ Backlinks คือลิงก์จากเว็บไซต์อื่นที่ชี้มายังเว็บไซต์ของคุณ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ search engine ใช้ในการประเมินความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์

9. Domain Authority (DA)

Domain Authority คือคะแนนที่ใช้คาดการณ์ความสามารถในการติดอันดับของเว็บไซต์ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น อายุโดเมน, จำนวนและคุณภาพของ backlinks

10. Page Authority (PA)

Page Authority คล้ายกับ Domain Authority แต่ใช้วัดความสามารถในการติดอันดับของหน้าเว็บเฉพาะหน้า ไม่ใช่ทั้งเว็บไซต์

11. Meta Tags

Meta Tags คือส่วนของ HTML ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับหน้าเว็บแก่ search engine โดยไม่แสดงผลให้ผู้ใช้เห็น เช่น meta title และ meta description

12. Alt Text

Alt Text คือข้อความที่ใช้อธิบายรูปภาพบนเว็บไซต์ ช่วยให้ search engine เข้าใจเนื้อหาของรูปภาพ และยังช่วยในเรื่องการเข้าถึงสำหรับผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางสายตา

13. Crawling

Crawling คือกระบวนการที่ search engine ส่ง bot ไปสำรวจและเก็บข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์และจัดอันดับ

14. Indexing

Indexing คือกระบวนการที่ search engine นำข้อมูลที่ได้จากการ crawl มาจัดเก็บและจัดหมวดหมู่ เพื่อให้สามารถแสดงผลได้อย่างรวดเร็วเมื่อมีการค้นหา

15. Core Web Vitals

Core Web Vitals คือชุดของปัจจัยที่ Google ใช้วัดประสบการณ์ของผู้ใช้บนเว็บไซต์ ประกอบด้วย Largest Contentful Paint (LCP), First Input Delay (FID) และ Cumulative Layout Shift (CLS)

16. Mobile-first Indexing

Mobile-first Indexing คือการที่ Google ใช้เวอร์ชันมือถือของเว็บไซต์เป็นหลักในการ crawl และ index เนื่องจากผู้ใช้ส่วนใหญ่เข้าถึงเว็บไซต์ผ่านอุปกรณ์มือถือ

17. Schema Markup

Schema Markup คือรหัส HTML พิเศษที่ช่วยให้ search engine เข้าใจเนื้อหาของเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น ช่วยในการแสดงผล rich snippets บน SERP

Featured Snippet คือกล่องข้อมูลที่แสดงคำตอบสั้นๆ สำหรับคำถามบางประเภทบน SERP โดยไม่ต้องคลิกเข้าไปที่เว็บไซต์

19. E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness)

คือปัจจัยที่ Google ใช้ในการประเมินคุณภาพของเนื้อหาและเว็บไซต์ โดยพิจารณาจากความเชี่ยวชาญ, ความมีอำนาจ และความน่าเชื่อถือ

20. User Intent

User Intent คือเจตนาหรือเป้าหมายของผู้ใช้เมื่อทำการค้นหา การเข้าใจ user intent จะช่วยให้คุณสร้างเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น

21. Bounce Rate

Bounce Rate คืออัตราการออกจากเว็บไซต์หลังจากดูเพียงหน้าเดียว อัตรา bounce rate ที่สูงอาจบ่งบอกถึงปัญหาในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้

22. Dwell Time

Dwell Time คือระยะเวลาที่ผู้ใช้อยู่บนหน้าเว็บของคุณก่อนกลับไปยัง SERP Dwell time ที่นานบ่งบอกถึงเนื้อหาที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของผู้ใช้

23. Click-Through Rate (CTR)

Click-Through Rate คืออัตราส่วนระหว่างจำนวนคลิกที่ลิงก์ของคุณได้รับบน SERP เทียบกับจำนวนการแสดงผล CTR ที่สูงบ่งบอกถึงความน่าสนใจของ title tag และ meta description

24. Canonical Tag

Canonical Tag คือ HTML tag ที่ใช้ระบุหน้าเว็บหลักในกรณีที่มีเนื้อหาซ้ำซ้อน ช่วยป้องกันปัญหา duplicate content และชี้ให้ search engine รู้ว่าควรให้ความสำคัญกับหน้าไหน

25. Robots.txt

Robots.txt คือไฟล์ที่ใช้ในการให้คำแนะนำแก่ search engine bots ว่าควรหรือไม่ควร crawl ส่วนใดของเว็บไซต์ ช่วยในการจัดการทรัพยากรของเว็บไซต์และป้องกันการ index เนื้อหาที่ไม่ต้องการ

26. XML Sitemap

XML Sitemap คือไฟล์ที่รวบรวมรายการของหน้าเว็บทั้งหมดในเว็บไซต์ ช่วยให้ search engine เข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์และ crawl ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

27. Internal Linking

Internal Linking คือการเชื่อมโยงระหว่างหน้าต่างๆ ภายในเว็บไซต์เดียวกัน ช่วยในการกระจายอำนาจ link และช่วยให้ผู้ใช้และ search engine สามารถนำทางภายในเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น

28. Anchor Text

Anchor Text คือข้อความที่มีการลิงก์ไปยังหน้าเว็บอื่น การใช้ anchor text ที่เหมาะสมช่วยให้ search engine เข้าใจเนื้อหาของหน้าปลายทางได้ดีขึ้น

29. HTTPS (Hypertext Transfer Protocol Secure)

HTTPS เป็นโปรโตคอลที่ใช้ในการรับส่งข้อมูลระหว่างเว็บเบราว์เซอร์และเว็บเซิร์ฟเวอร์อย่างปลอดภัย Google ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS ในการจัดอันดับ

30. Page Speed

Page Speed คือความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ เป็นปัจจัยสำคัญทั้งในแง่ของ user experience และการจัดอันดับของ Google การปรับปรุง page speed สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ได้อย่างมาก

31. Responsive Design

Responsive Design คือการออกแบบเว็บไซต์ให้สามารถแสดงผลได้อย่างเหมาะสมบนอุปกรณ์ทุกขนาดหน้าจอ เป็นปัจจัยสำคัญในยุค Mobile-first Indexing

32. SEO Technical Audit:

การทำ SEO Technical Audit เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถระบุและแก้ไขปัญหาทางเทคนิคที่อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ SEO ของเว็บไซต์ การทำ Technical Audit อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าเว็บไซต์ของคุณพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของอัลกอริธึม Google และสามารถแข่งขันได้ในตลาดออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูง

33. Local SEO

Local SEO คือการปรับแต่ง SEO เพื่อให้ธุรกิจติดอันดับในผลการค้นหาท้องถิ่น เช่น “ร้านอาหารใกล้ฉัน” โดยเน้นการใช้ Google My Business และการสร้าง local citations

34. Google Search Console

Google Search Console คือเครื่องมือฟรีจาก Google ที่ช่วยในการติดตามและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเว็บไซต์บน Google Search รวมถึงการแจ้งปัญหาและการส่ง sitemap

35. Google Analytics 4

Google Analytics 4 คือเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้เข้าชมเว็บไซต์ พฤติกรรมการใช้งาน และประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ช่วยในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ SEO

36. Keyword Cannibalization

Keyword Cannibalization เกิดขึ้นเมื่อมีหลายหน้าในเว็บไซต์เดียวกันที่พยายามจะติดอันดับด้วย keyword เดียวกัน ทำให้เกิดการแข่งขันกันเองและอาจส่งผลเสียต่อการจัดอันดับโดยรวม

37. BERT (Bidirectional Encoder Representations from Transformers)

BERT คืออัลกอริธึมของ Google ที่ใช้ในการเข้าใจความหมายและบริบทของคำค้นหา ช่วยให้ Google สามารถเข้าใจความตั้งใจของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น

38. Core Algorithm Updates

Core Algorithm Updates คือการอัปเดตหลักของอัลกอริธึม Google ที่เกิดขึ้นหลายครั้งต่อปี ส่งผลกระทบต่อการจัดอันดับของเว็บไซต์จำนวนมาก การติดตามและปรับตัวตาม Core Updates เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำ SEO ระยะยาว

39. Evergreen Content

Evergreen Content คือเนื้อหาที่ยังคงมีความเกี่ยวข้องและมีคุณค่าต่อผู้อ่านในระยะยาว โดยไม่ล้าสมัยง่าย การสร้าง Evergreen Content ช่วยในการสร้างทราฟฟิกอย่างต่อเนื่องและเพิ่มโอกาสในการได้รับ backlinks

40. User Experience (UX)

User Experience คือประสบการณ์โดยรวมของผู้ใช้เมื่อใช้งานเว็บไซต์ Google ให้ความสำคัญกับ UX มากขึ้นเรื่อยๆ ในการจัดอันดับ การปรับปรุง UX จึงเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ SEO ที่มีประสิทธิภาพ

สรุปบทความ

การนำความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ SEO พื้นฐานมาประยุกต์ใช้ร่วมกับการติดตามแนวโน้มล่าสุด จะช่วยให้คุณสามารถพัฒนากลยุทธ์ SEO ที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

อย่างไรก็ตาม การทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ เวลา และทรัพยากรที่เพียงพอ หากคุณต้องการความช่วยเหลือในการพัฒนากลยุทธ์ SEO ทั้ง รับเขียนบทความ SEO, บริการรับทำ SEO Ecommerce, บริการรับทำ SEO ธุรกิจ B2B และรับทำ SEO คลินิกทุกประเภท ให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

ADCHARIYA เอเจนซี่การตลาดออนไลน์ พร้อมให้คำปรึกษาและบริการด้าน SEO ที่ครบวงจร ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เราพร้อมช่วยให้ธุรกิจของคุณก้าวขึ้นสู่อันดับต้นๆ ของ Search Engine และประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์

ติดต่อเราวันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาฟรีและเริ่มต้นยกระดับ SEO ของธุรกิจคุณ

Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *