KOL KOC คืออะไร? หลาย ๆ คนคงจะคุ้นเคยกับ Influencer และ KOL กันอยู่แล้ว โดย Influencer คือมีผู้มีอิทธิพลทางความคิดที่สามารถชักจูงใจผู้บริโภคให้ซื้อสินค้าและรับรู้แบรนด์ได้ ส่วน KOL คือผู้มีอิทธิพลทางความคิดเช่นกัน เพิ่มเติมคือมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง จึงสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าได้เป็นอย่างดี แล้ว KOC คืออะไรล่ะ? เหมือนหรือแตกต่างกับ KOL อย่างไร? ถ้าอยากรู้ บทความนี้มีคำตอบ ADCHARIYA (แอดฉริยะ) รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว
KOC คืออะไร
KOC คือคนธรรมดาที่แชร์ความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้าในโลกออนไลน์ สามารถพบได้บ่อยบน Social Media อย่าง TikTok และ Facebook ซึ่ง KOC ย่อมาจาก Key Opinion Consumer หรือผู้บริโภคที่มีอิทธิพล พวกเขาซื้อสินค้าด้วยเงินตัวเอง ลองใช้จริง แล้วมาเล่าให้คนอื่นฟัง ไม่ใช่นักสร้างคอนเทนต์อย่าง Influencer หรือผู้เชี่ยวชาญแบบ KOL แต่เป็นคนทั่วไปที่เราอาจเจอในชีวิตประจำวัน คนดูรู้สึกว่าคำแนะนำของ KOC จริงใจและเชื่อถือได้ เพราะมาจากประสบการณ์จริง ถึง KOC จะมีคนติดตามไม่เยอะ แต่คนที่ติดตามมักสนใจสินค้าประเภทเดียวกัน และพร้อมจะซื้อตามคำแนะนำของพวกเขา
KOC ต่างกับ KOL อย่างไร
KOL และ KOC เป็นคนมีอิทธิพลในโลกออนไลน์เหมือนกัน แต่มีความต่างกันหลายอย่าง KOL คือคนที่มีความรู้เฉพาะด้าน มีชื่อเสียง และมีคนตามเยอะ พวกเขามักได้รับการติดต่อจากแบรนด์ให้มาโปรโมตสินค้า ส่วน KOC คือคนธรรมดาที่ซื้อของใช้เอง แล้วเอามารีวิวบอกต่อจากประสบการณ์จริง ๆ ซึ่ง KOL มักนำเสนอเนื้อหาจากความรู้ที่เขามี บางทีอาจไม่ได้ลองของจริง แต่ KOC เล่าจากการที่เขาได้ใช้ของนั้นเอง ทำให้คนดูรู้สึกว่าเชื่อถือได้ ถึง KOC จะมีคนตามน้อยกว่า แต่คนที่ตามมักสนใจเรื่องเดียวกัน และพร้อมจะซื้อตามคำแนะนำมากกว่า
ไม่เพียงเท่านั้น KOL ยังช่วยให้คนรู้จักแบรนด์ได้มากกว่า เพราะมีคนตามเยอะ ส่วน KOC ช่วยให้คนเชื่อและอยากซื้อ เพราะคำแนะนำของเขามาจากการใช้จริง ไม่ใช่เพราะได้เงิน นี่เป็นเหตุผลที่หลายแบรนด์เริ่มหันมาใช้ KOC มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องการความเชื่อถือและต้องการเข้าถึงคนที่สนใจจริง ๆ นั่นเอง
KOC กับ Influencer แตกต่างกันอย่างไร
Influencer มักมีคนติดตามเป็นหลักหมื่นถึงหลักล้าน และรับงานจากแบรนด์เพื่อโปรโมตสินค้า เนื้อหาที่พวกเขาสร้างมักมีการวางแผนและถ่ายทำอย่างดี บางทีอาจดูเป็นเชิงโฆษณามากกว่าการรีวิวจริง คนติดตาม Influencer เพราะชอบในตัวคนนั้นหรือชอบสไตล์การนำเสนอ ส่วน KOC มีคนติดตามน้อยกว่า มักไม่เกินหลักพัน พวกเขารีวิวสินค้าเพราะชอบจริง ซื้อเองใช้เอง แล้วมาเล่าประสบการณ์ให้คนอื่นฟัง เนื้อหามักดูเป็นธรรมชาติ ไม่ได้มีการผลิตแบบมืออาชีพ เหมือนเพื่อนมาบอกต่อมากกว่า คนที่ติดตาม KOC มักสนใจในสินค้าประเภทเดียวกันจริง ๆ
สรุปว่า KOC และ Influencer ทั้งคู่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของคนในโลกออนไลน์ แต่มีความแตกต่างกันหลายอย่าง KOC คือคนธรรมดาที่รีวิวสินค้าจากประสบการณ์จริง ส่วน Influencer คือคนที่มีชื่อเสียงและมีคนติดตามจำนวนมาก ถ้าแบรนด์ต้องการสร้างการรับรู้ในวงกว้าง Influencer จะเหมาะกว่า แต่ถ้าต้องการความน่าเชื่อถือและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ KOC จะได้ผลดีกว่า บางแบรนด์จึงใช้ทั้งสองแบบร่วมกัน โดยใช้ Influencer ทำให้คนรู้จัก และใช้ KOC ช่วยให้คนตัดสินใจซื้อ หรือจะใช้ KOL ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยก็ได้
จุดเด่นของ KOC คืออะไร
- น่าเชื่อถือสูง เพราะใช้สินค้าจริง จ่ายเงินเอง รีวิวตามความรู้สึกจริง ไม่อวยเพราะได้เงิน
- ดูเป็นธรรมชาติ พูดแบบเพื่อนคุยกับเพื่อน ไม่มีสคริปต์ ไม่มีการจัดฉาก
- กระตุ้นการซื้อได้ดี คนมักซื้อตาม KOC เพราะเชื่อว่าเป็นข้อมูลจริง จากคนใช้จริง
- ต้นทุนต่ำ จ้าง KOC หลายคนยังถูกกว่าจ้าง Influencer หรือ KOL คนเดียว
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายชัดเจน คนติดตาม KOC มักสนใจเรื่องเดียวกันและมีโอกาสซื้อสูง
- จงรักภักดีต่อแบรนด์ KOC มักรีวิวสินค้าที่ชอบจริง ๆ ใช้ต่อ และซื้อซ้ำในระยะยาว
- รู้ลึกเรื่องสินค้า บางที KOC รู้จักสินค้าดีกว่าพนักงานแบรนด์เอง
ข้อดีของการเลือกใช้ KOC มาโปรโมตสินค้า
KOC เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความน่าเชื่อถือและความจริงใจในการสื่อสาร โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องอาศัยประสบการณ์จริง เช่น เครื่องสำอาง อาหารเสริม ความสวยความงาม สกินแคร์ ร้านอาหาร ฯลฯ การใช้คนธรรมดาที่ใช้สินค้าจริงมาบอกต่อ ทำให้ลูกค้าเชื่อและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
- น่าเชื่อถือสูง คนเชื่อคำแนะนำจากผู้ใช้จริงมากกว่าดาราที่ได้เงินค่าโฆษณา
- ต้นทุนต่ำ จ้าง KOC หลายคนยังถูกกว่าจ้าง Influencer คนเดียว
- ช่วยปิดการขายได้ดี คนดูรีวิวจาก KOC ตัดสินใจซื้อง่ายกว่า เพราะเห็นว่าเป็นข้อมูลจริง
- เข้าถึงคนที่สนใจจริง ๆ KOC มีผู้ติดตามที่สนใจเรื่องเดียวกัน ช่วยให้เข้าถึงคนที่น่าจะซื้อสินค้า
- ดูเป็นธรรมชาติ เหมือนเพื่อนแนะนำเพื่อน ไม่รู้สึกว่าโดนขายของ
- กระจายการรีวิวได้เยอะ ใช้ KOC หลายคนพร้อมกันสร้างกระแสได้เร็ว
- ได้ฟีดแบคจริง รู้จุดเด่นจุดด้อยของสินค้าจากมุมมองลูกค้าจริง
สรุป
KOC คือคนธรรมดาที่รีวิวสินค้าจากประสบการณ์จริง ซึ่งต่างจาก KOL ที่เป็นผู้รู้หรือคนมีชื่อเสียง การเลือกใช้ KOC หรือ KOL ขึ้นอยู่กับว่าแบรนด์ต้องการอะไร ถ้าอยากให้คนเชื่อและตัดสินใจซื้อในกลุ่มเฉพาะ KOC จะเหมาะกว่า แต่ถ้าอยากให้คนรู้จักเยอะๆ KOL จะดีกว่า หลายแบรนด์เลยใช้ทั้งสองแบบร่วมกัน โดยใช้ KOL ทำให้คนรู้จัก แล้วใช้ KOC ช่วยให้คนตัดสินใจซื้อนั่นเอง

Leave a Reply