QuillBot ตัวช่วยแปลภาษา ถอดความ สรุป ครบจบในตัวเดียว!
วันนี้ ADCHARIYA จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับเครื่องมือช่วยแปลภาษาด้วยระบบ AI ที่มีฟีเจอร์การใช้งานแบบจัดเต็ม หรือ “QuillBot” นั่นเอง เอาใจสาย Content Writer, Content Creator และเหล่านักเรียนนักศึกษากันสุด ๆ เพราะภาษาการแปลที่ได้ออกมามีความธรรมชาติมาก นอกจากนี้ ยังใช้เขียนงาน รีไรท์บทความ และแก้คำผิดได้อีกด้วย ว่าแต่ QuillBot คืออะไร มีจุดเริ่มต้นอย่างไร เหมาะกับใคร และมีฟีเจอร์การใช้งานอะไรบ้าง สามารถติดตามอ่านได้ในบทความนี้เลย!
QuillBot คืออะไร เหมาะกับใครบ้าง
QuillBot คือเครื่องมือแปลภาษาที่ขับเคลื่อนการทำงานด้วย AI เวอร์ชัน GPT-3.5 (ChatGPT) ซึ่งเราสามารถนำมาช่วยถอดความ แปลภาษา ตรวจคำผิด ตรวจไวยากรณ์ เขียนบทความ เขียนอีเมล หรือเรียบเรียงประโยคได้อย่างมีคุณภาพ เนื่องจากตัว QuillBot มีการเรียนรู้และทำความเข้าใจถึงความหมายของข้อความที่เราใส่เข้าไปก่อนที่จะแปลหรือผลิตชิ้นงานออกมา ทำให้งานเขียนหรืองานแปลที่ได้มีความลื่นไหลไม่มีสะดุด ดูธรรมชาติราวกับว่าเจ้าของภาษาเขียนขึ้นมาเอง
QuillBot สามารถ Paraphrase งานได้อย่างแนบเนียน อ่านง่าย สละสลวย สดใหม่ และยังปรับได้หลายโหมดตามความต้องการอีกด้วย ทั้งนี้ คุณยังสามารถไว้วางใจได้เลยว่า QuillBot จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาด้านลิขสิทธิ์ การคัดลอกงานของผู้อื่น หรือ Plagiarism อีกด้วย
จุดเริ่มต้นของ QuillBot
จุดเริ่มต้นของ QuillBot เริ่มต้นเมื่อปี 2017 ร่วมก่อตั้งโดย Rohan Gupta, Anil Jason และ David Silin ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาได้อย่างเท่าเทียมกัน จากวันนั้นจนถึงวันนี้ QuillBot เติบโตขึ้นอย่างมาก จนในปัจจุบันนี้มีผู้เข้าไปใช้งานมากกว่า 30 ล้านรายต่อเดือนเลยทีเดียว
QuillBot เหมาะกับใคร
- นักการตลาด นักเขียนบทความ นักแปลภาษา
- เจ้าของเว็บไซต์ที่ต้องโพสต์บทความเป็นประจำ
- ผู้ที่ต้องติดต่อประสานงานกับคนต่างชาติ
- นักเรียน นักศึกษา นักวิชาการ และบุคลากรทางการศึกษา

แนะนำ 6 ฟีเจอร์บน QuillBot
ในตอนนี้ QuillBot มีฟีเจอร์การใช้งานหลัก ๆ อยู่ 6 ฟีเจอร์ด้วยกัน คือ Paraphrase ถอดความ, Grammar Checker เช็กไวยากรณ์, Summarizer สรุปเนื้อหา, Citation Generator สร้างการอ้างอิง, Plagiarism Checker ตรวจสอบการคัดลอก และ Translator แปลภาษา โดยแต่ละฟีเจอร์มีข้อดีและรายละเอียดต่าง ๆ ตามนี้เลย!
1. Paraphrase

Paraphrase คือการถอดความประโยคเดิมให้กลายเป็นประโยคใหม่ โดยการใช้ภาษาหรือลักษณะของคำที่แตกต่างไปจากเดิม ซึ่งฟีเจอร์ Paraphrase นี้ ถือเป็นจุดเด่นของ QuillBot เลยก็ว่าได้ เพราะมีโหมด Paraphrase มากถึง 9 โหมดด้วยกัน ประกอบไปด้วย Standard, Creative, Formal, Expand, Fluency, Custom, Simple, Academic และ Shorten สำหรับแพ็กเกจฟรีจะสามารถใช้งานได้เพียง 2 โหมด (Standard และ Fluency) และจำกัดอยู่ที่ 400 ตัวอักษรเท่านั้น
2. Grammar Checker

Grammar Checker เป็นฟีเจอร์ที่ใช้สำหรับตรวจไวยากรณ์ พร้อมกับแก้ไขคำผิดต่าง ๆ ให้ถูกต้อง รวมถึงพวกเว้นวรรคและโครงสร้างประโยคด้วย
3. Summarizer

Summarizer ฟีเจอร์ที่จะเข้ามาช่วยสรุปบทความและข่าวสารของคุณให้สั้นกระชับและได้ใจความ สามารถปรับ Summary Length หรือความยาวของบทสรุปได้ 4 ระดับ เลือกได้ว่าอยากให้สรุปออกมาเป็นย่อหน้าหรือ Bullet Points ซึ่งคุณสามารถใช้งานได้ฟรี 2,500 ตัวอักษร และใช้งานได้ 5,000 ตัวอักษรสำหรับแพ็กเกจ Premium
4. Citation Generator

Citation Generator ฟีเจอร์สำหรับสร้างการอ้างอิงที่มีความแม่นยำสูง สามารถเลือกได้ว่าอยากจะให้ QuillBot เขียนอ้างอิงประเภทใด โดยสามารถเลือกได้ 3 แบบ คือ APA, MLA และ Chicago
5. Plagiarism Checker

Plagiarism Checker ฟีเจอร์การตรวจสอบเนื้อหา เพื่อดูว่าเนื้อหาดังกล่าวได้คัดลอกมาจากที่อื่นหรือไม่ ซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหาการลอกเลียนแบบได้ เหมาะกับงานเขียนเชิงวิชาการ รายงานการวิจัย ข่าว และข้อมูลความรู้ในด้านต่าง ๆ
6. Translator

Translator ฟีเจอร์ช่วยแปลภาษา รองรับการแปลข้อความได้มาถึง 45 ภาษาด้วยกัน อาทิ อังกฤษ, จีน, มาเลเซีย, เกาหลี, สเปน, ญี่ปุ่น, อิตาลี, สวีเดน, รัสเซีย, เยอรมัน, เวียดนาม, ตุรกี, และอื่น ๆ รวมถึงภาษาไทยด้วยเช่นกัน
QuillBot ฟรีไหม? ราคาเท่าไหร่?
คุณสามารถเข้าไปใช้งาน QuillBot ได้ฟรี สำหรับฟีเจอร์พื้นฐานต่าง ๆ อย่าง Paraphrase, Grammar Checker และ Summarizer แต่ก็จะมีข้อจำกัดบางประการอยู่ อาทิ การจำกัดจำนวนคำ หรือการจำกัดจำนวนโหมดถอดความ เป็นต้น หากคุณต้องการใช้งานฟีเจอร์บน QuillBot แบบจัดเต็ม ก็สามารถสมัครใช้งานแพ็กเกจ Premium ได้ โดยสามารถเลือกได้ถึง 3 แพ็กเกจด้วยกัน
- QuillBot Premium แบบรายเดือน ราคา 349.95 บาท
- QuillBot Premium แบบราย 6 เดือน ราคา 1,399.95 บาท หรือประมาณ 233.33 บาทต่อเดือน
- QuillBot Premium แบบรายปี ราคา 1,799.95 บาท หรือประมาณ 149.99 บาทต่อเดือน

สิ่งที่คุณจะได้รับจากการสมัครแพ็กเกจ Premium
- การประมวลผลอย่างรวดเร็ว พร้อมคำแนะนำที่มีคุณภาพ
- ไม่จำกัดคำและโหมดสำหรับฟีเจอร์ Paraphraser
- สามารถใช้งาน Synonym Slider ได้อย่างเต็มรูปแบบ (ช่วยปรับการใช้คำพ้องความหมาย)
- ไม่จำกัด Freeze Words (การตรึงคำศัพท์ที่มีความหมายเฉพาะไว้เช่นเดิม)
- ใช้คำศัพท์ใน Summarizer ได้มากถึง 6,000 คำ (จากเดิมที่แพ็กเกจฟรีใช้ได้เพียง 1,200 คำ)
- สามารถปรับแต่งบทสรุปได้ตามต้องการ จากคำที่กำหนดได้เอง โดยไม่ซ้ำใคร
- ใช้งาน Plagiarism Checker ได้ 100 หน้าต่อเดือน (ตรวจสอบการลอกเลียนแบบ)
- สามารถกู้คือประวัติการถอดความ (History) ย้อนหลังได้ 50 ชิ้นงานล่าสุด
- เพิ่มฟีเจอร์ Tone insights ให้ใช้งาน (ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ Mood & Tone ของชิ้นงาน)
สรุปบทความ

Leave a Reply