Meme Marketing Article

Meme Marketing กลยุทธ์การตลาดผ่านการใช้มีม

ถ้าพูดถึงคอนเทนต์ที่สร้างการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดียได้ดีสุด ๆ นอกจาก Real-time Content แล้ว Meme Marketing ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ทรงพลังไม่แพ้กัน ด้วยการผสมผสานความตลกขบขันเข้ากับประเด็นที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันบนโลกออนไลน์ ทำให้มีม (Meme) สามารถสร้างการแชร์ต่อและเอนเกจเมนต์ได้อย่างรวดเร็ว หลายแบรนด์จึงนำมีมมาปรับใช้ในการสื่อสาร เพื่อสร้างการจดจำและความใกล้ชิดกับกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบที่สนุกสนานและเป็นกันเองมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ADCHARIYA จึงจะพาคุณไปรู้จักว่า Meme Marketing คืออะไร Meme คืออะไร มีแนวทางการทำอย่างไรให้ปังและได้ผลลัพธ์ที่ดีต่อธุรกิจ พร้อมแนบตัวอย่าง Meme Marketing

Meme (มีม) คืออะไร

มีม หรือ Meme คือภาพ ข้อความ หรือคลิปวิดีโอสั้น ๆ ที่สอดแทรกความตลกขบขันหรือการเสียดสีสังคมลงไป จุดเด่นคือสามารถสื่อความหมายและแสดงออกถึงความคิดหรือความรู้สึกได้อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งมักจะใช้ภาพหรือคำพูดที่ผู้คนคุ้นชินกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วมาทำ ทำให้ผู้รับสารเข้าใจได้ทันทีโดยไม่ต้องอธิบายยืดยาว จนเกิดเป็นการส่งต่อและแพร่กระจายอย่างรวดเร็วบนโลกออนไลน์ ทำให้หลายแบรนด์หันมาใช้มีมเป็นกลยุทธ์ในการสื่อสารการตลาด หรือที่เรียกว่า Meme Marketing เพื่อสร้างการรับรู้และความผูกพันกับกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบที่สนุกสนานและเป็นธรรมชาตินั่นเอง

รูปแบบของ Meme ที่พบเห็นได้บ่อย ๆ คือ

  • ภาพนิ่งพร้อมข้อความสั้น ๆ ที่สื่อความหมายเฉพาะ
  • GIF หรือคลิปวิดีโอสั้นที่ถูกนำมาใช้ซ้ำในบริบทต่าง ๆ
  • ข้อความหรือวลีเด็ดที่กลายเป็นที่จดจำ
  • การ์ตูนหรือสติกเกอร์ที่แสดงอารมณ์หรือสถานการณ์ต่าง ๆ

Meme Marketing คืออะไร

Meme Marketing คือกลยุทธ์การตลาดที่ใช้มีมเป็นเครื่องมือในการสื่อสารของแบรนด์และสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการผสมผสานความตลกขบขันและการเสียดสีสังคมผ่านคอนเทนต์ที่กำลังเป็นที่นิยม กลยุทธ์นี้ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างการรับรู้และความผูกพันกับผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว เพราะมีมมักถูกแชร์ต่อและกลายเป็นไวรัลได้ง่ายเมื่อเนื้อหาถูกใจผู้ชม ถ้าคุณอยากทำ Meme Marketing ไม่ต้องเสียเวลาสร้างคอนเทนต์ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด สามารถนำมีมหรือสื่อที่มีอยู่แล้วมาดัดแปลงให้เข้ากับบริบทของแบรนด์ได้เลย ซึ่งสิ่งสำคัญในการทำ Meme Marketing คือการเลือกใช้มีมให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและจังหวะเวลา โดยแบรนด์จะต้องระมัดระวังไม่ให้การใช้มีมกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ในแง่ลบ การทำ Meme Marketing ที่ประสบความสำเร็จจึงต้องอาศัยทั้งความคิดสร้างสรรค์และไหวพริบในการจับจังหวะเวลาให้ถูกต้อง

ข้อดีของการทำ Meme Marketing

  • สร้างการมีส่วนร่วมสูงแบบออร์แกนิก เพราะคนมักจะแชร์และแสดงความคิดเห็นกับมีมที่ตัวเองชื่นชอบโดยธรรมชาติ
  • ประหยัดต้นทุนและทรัพยากรในการผลิตสื่อ เนื่องจากไม่ต้องลงทุนผลิตมีมใหม่ทั้งหมด
  • สร้างความใกล้ชิดกับกลุ่มเป้าหมายด้วยการสื่อสารที่เป็นกันเองและร่วมสมัย
  • เพิ่มโอกาสการเป็นไวรัล เพราะมีมที่ตรงใจมักถูกส่งต่ออย่างรวดเร็ว
  • วัดผลได้ทันทีผ่านตัวชี้วัดโซเชียลมีเดีย เช่น จำนวนการกดไลก์ แชร์ และคอมเมนต์
  • สร้างภาพจำที่แตกต่างให้กับแบรนด์ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่
  • ปรับเปลี่ยนและตอบสนองต่อเทรนด์ได้อย่างรวดเร็ว

ข้อเสียของการทำ Meme Marketing

  • กระแสมีมมีอายุสั้น อาจจะตกเทรนด์ได้อย่างรวดเร็ว
  • เสี่ยงต่อการเข้าใจผิดในความหมาย โดยเฉพาะเมื่อใช้มีมที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม
  • ควบคุมการตีความของผู้รับสารได้ยาก อาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์แบรนด์ได้
  • ต้องติดตามเทรนด์ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้พลาดจังหวะการสื่อสาร
  • อาจไม่เหมาะกับทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการความจริงจัง
  • เสี่ยงต่อประเด็นลิขสิทธิ์ หากใช้ภาพหรือเนื้อหาที่มีการคุ้มครอง
  • แข่งขันสูงเพราะหลายแบรนด์ใช้มีมเดียวกัน ทำให้ขาดความแตกต่าง

ตัวอย่างการทำ Meme Marketing

ตัวอย่างการทำ Meme Marketing จาก Netflix แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าดังระดับโลก ที่มีการสร้าง Meme จากหนังเรื่อง Carry-On ที่ฉายอยู่บนแพลตฟอร์ม Netflix จะเห็นได้ว่าภาพด้านบนจะภาพเจ้าที่ที่กำลังเข้าง่าย แบบไม่เร่งรีบ ส่วนภาพด้านล่างคือภาพที่กำลังวิ่งให้ความรู้สึกเร่งรีบสุด ๆ ทาง Netflix จึงจับเอาภาพนี้มาทำเป็นมีมและใส่คำพูด “ตอนเข้างาน” และ “ตอนเลิกงาน” ที่สะท้อนกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายนั่นเอง โดยยังคงความเป็นตัวตนของแบรนด์ด้วย Logo และชื่อเรื่องที่วางอยู่ในมุมซ้ายของภาพข้างบน ที่ปรากฏขึ้นเหมือนกับตอนที่กลุ่มเป้าหมายรับชมหนังผ่าน Netflix นั่นเอง

Meme-Marketing-Example

แนวทางการทำ Meme Marketing ให้ปัง ไม่เสี่ยงพัง

การใช้ Meme Marketing เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างดีเยี่ยม เพราะมีเนื้อหาและรูปแบบที่เบาสมอง สนุกสนาน และเข้าใจง่าย ทั้งนี้ คุณก็ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดจากการตีความที่ผิดเพี้ยนด้วย ดังนั้น การทำ Meme Marketing ให้เห็นปังและไม่เสี่ยงทำแบรนด์พังจะต้องสื่อสารอย่างชัดเจน ในเชิงสร้างสรรค์ ไม่ใช่การล้อเลียนหรือเหยียดใด ๆ โดยแนวทางการทำ Meme Marketing ในปี 2025 มีดังนี้

1. รู้จักและรู้ใจกลุ่มเป้าหมาย

อยากสร้างมีมให้ได้ผล ต้องเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร พวกเขาชอบและสนใจเรื่องอะไร มีเรื่องอะไรในชีวิตประจำวันที่พวกเขาเจอบ้าง แล้วใช้ประเด็นเหล่านี้มาเล่าในมุมมองที่ตลกผ่านมีม เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่ามีมของคุณโดนใจและน่าแชร์ต่อ

2. สอดแทรกตัวของแบรนด์

แม้ว่ามีมจะดูเป็นเรื่องสนุก ๆ และไม่เป็นทางการเลย แต่คุณควรแทรกตัวตนของแบรนด์ลงไปด้วย อาจจะเป็นการใช้สี ภาพ หรือลักษณะคำพูดที่สะท้อนถึงแบรนด์ของคุณก็ได้ เมื่อมีมดังกล่าวถูกแชร์ต่อ ๆ ไป ก็จะทำใหัผู้ชมจำได้ว่านี่คือแบรนด์ของคุณ

3. ไอเดียต้องสร้างสรรค์

Meme ที่ไวรัล มักจะมีความครีเอทีฟไม่ซ้ำใคร ไอเดียการสร้างมีมดี ๆ อาจมาจากการหยิบเรื่องต่าง ๆ ที่อยู่ในกระแสมาเล่น แต่คุณก็ต้องพิจารณาด้วยว่ามันส่งผลกระทบในแง่ลบต่อคนกลุ่มใดหรือเปล่า จะมีการตีความแบบไหนบ้าง แนะนำให้หลีกเลี่ยงประเด็นที่อ่อนไหวอย่างการเมือง ศาสนา สีผิว วัฒนธรรม และเรื่องที่กระทบกระเทือนต่อจิตใจ

4. ตรวจสอบความถูกต้องก่อนโพสต์

เนื่องจากการทำ Meme Marketing มักจะมาไวไปไว แบบไม่ทันได้ตั้งตัว ต้องหยิบยกเรื่องราวในกระแสสังคมมาทำ การผลิตจึงค่อนข้างเร่งรีบและใช้เวลาน้อย อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเผยแพร่โพสต์ออกไป คุณควรตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหาข้อมูลก่อนทุกครั้ง

5. หลีกเลี่ยงการยิงโฆษณามีม

การทำ Meme Marketing แนะนำให้ทำแบบโพสต์ Organic ไม่ควรพยายามให้ไวรัลหรือนำไปยิงโฆษณาแต่อย่างใด รวมถึงการสอดแทรกการขายสินค้าผ่านมีมด้วย เพราะจุดเด่นของ Meme คือความธรรมชาติ

สรุปบทความ

Meme Marketing คือกลยุทธ์การตลาดที่ใช้ความสนุกสนานและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและสร้างการจดจำให้กับแบรนด์ อีกทั้งยังช่วยสร้างความใกล้ชิดกับกลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มโอกาสการเป็นไวรัลได้อีกด้วย แต่การสร้างมีมให้ไวรัลและไร้กระแสโจมตีในแง่ลบก็ไม่ได้ง่าย เพราะแบรนด์ส่วนมากที่ทำการตลาดด้วยมีมต่างเคยพบเจอกับข้อผิดพลาด เนื่องจากหยิบหยกประเด็นละเอียดออกมาทำเป็น Meme มาแล้ว ส่งผลให้ภาพลักษณ์ดูแย่ลงในสายตาของผู้บริโภคได้ ด้วยเหตุนี้ แบรนด์จะต้องระวังเรื่องประเด็นและเนื้อหาที่นำมาใช้ในการสร้างมีมด้วย เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดที่อาจเกิดผลเสียต่อแบรนด์ในระยะยาวนั่นเองลบ