10 เทคนิคทำ SEO ดัน traffic

เปิด 10 เทคนิค SEO ดัน Traffic ที่คุณไม่ควรพลาด

การทำ SEO (Search Engine Optimization) ช่วยสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจของคุณได้มากกว่าที่คิด อีกทั้งยังยั่งยืนในระยะยาวอีกด้วย แต่คุณจะต้องอาศัยระยะเวลาที่นานสักหน่อย เพื่อให้เกิดเป็น Organic Traffic แบบธรรมชาติ และติดอันดับบนหน้าการค้นหาของ Google ในตำแหน่งที่ดีที่สุด และในวันนี้ ADCHARIYA ก็จะมาแนะนำเทคนิค SEO ฉบับปี 2024 ให้คุณรู้กัน! ใครที่อยากให้ Traffic พุ่งและยอดขายรุ่ง ห้ามพลาดบทความนี้

Organic Traffic คืออะไร?

Organic Traffic คือผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่มาจากผลการค้นหาแบบธรรมชาติ ผ่าน Keyword ต่าง ๆ ที่คุณใช้ในการทำ SEO ถ้าคุณทำ SEO ถูกต้องและปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพได้ ก็จะช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าการค้นหาและดึงดูด Organic Traffic ให้เข้ามาบนเว็บไซต์อย่างไม่ขาดสาย

10 เทคนิค SEO ดันอันดับ และเพิ่ม Traffic ให้พุ่ง

เทคนิคการทำ SEO มีอยู่เยอะแยะมากมาย ซึ่งแต่ละคนและแต่ละเว็บไซต์ก็จะมีเทคนิค SEO ที่ทำแล้วเห็นผลแตกต่างกันไป แต่ 10 เทคนิคทำ SEO ที่เราเอามาฝากกันในบทความนี้ เป็นเหมือนเทคนิคพื้นฐานที่ทำแล้วเว็บไซต์ดี และมีส่วนทำให้ SEO ปังสูงมาก ถ้าพร้อมที่จะสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจบนโลกออนไลน์แล้ว ไปเรียนรู้เทคนิค SEO กันได้เลย

เทคนิค SEO ดันอันดับและเพิ่ม traffic

1. เลือก Keyword ให้ถูก

Keyword (คีย์เวิร์ด) เป็นสิ่งที่ผู้คนใช้ในการค้นหาข้อมูลบน Search Engine อย่าง Google หากเว็บไซต์ของคุณใช้ Keyword ที่ตรงกับความต้องการของผู้ค้นหา โอกาสที่เว็บไซต์ของคุณจะปรากฏบนหน้า Google ก็จะเพิ่มมากขึ้น การเลือก Keyword ที่ “ใช่” สามารถทำได้โดยวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายว่าพวกเขาค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไร โดยการใช้เครื่องมือช่วยทำ Keyword Research และเลือกคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาสูง แต่มีระดับความยากง่ายในการแข่งขันปานกลาง

2. Content ต้องมีคุณภาพ

Content คุณภาพ คือการเขียนเนื้อหาในบทความให้มีประโยชน์ น่าสนใจ ตรงประเด็น ตอบโจทย์สิ่งที่ผู้ค้นหาต้องการ และมีข้อมูลรายละเอียดอย่างครบถ้วน เช่น บทความให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการ, บทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ หรือบทความที่เขียนออกมาจากประสบการณ์จริง เป็นต้น

3. อย่าลืมใส่ Meta Tag

Meta Tag คือข้อมูลที่อธิบายเนื้อหาของเว็บเพจ เพื่อบอก Search Engine ว่าเนื้อหาในหน้าดังกล่าวเกี่ยวกับอะไร ประกอบไปด้วย Meta Title (หัวข้อ) และ Meta Description (คำอธิบาย) ซึ่ง Meta Tag จะแสดงผลในหน้า SERP (หน้าแสดงผลการค้นหา) และส่วน Header ของเว็บไซต์ แต่จะไม่แสดงผลในหน้าเว็บไซต์

4. ปรับเว็บไซต์ให้ Mobile Friendly

ในยุคปัจจุบันผู้คนใช้โทรศัพท์มือถือในการเข้าถึงเว็บไซต์มากกว่าคอมพิวเตอร์ การปรับเว็บไซต์ให้ Mobile Friendly จึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างสะดวก, ได้รับประสบการณ์ที่ดี, มีโอกาสซื้อสินค้าหรือบริการมากขึ้น และช่วยให้อันดับ SEO ดีขึ้นด้วย เนื่องจาก Google ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ Mobile Friendly นั่นเอง ซึ่งคุณสามารถทำได้โดยการใช้ Responsive Design และ Accelerated Mobile Pages

5. ระบบหลังบ้านเว็บไซต์ต้องดี

ระบบหลังบ้านเว็บไซต์ มีบทบาทสำคัญต่อ SEO ไม่น้อย เพราะระบบหลังบ้านเว็บไซต์ที่ดีและเป็น SEO Friendly จะช่วยให้คุณ Optimize เว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น ทำให้เว็บไซต์โหลดเร็ว มีความปลอดภัย และส่งผลดีต่ออันดับ SEO บนหน้า Google ด้วย ซึ่งระบบ CMS ที่แนะนำคือ WordPress และ Joomla

6. Optimize เว็บไซต์ให้โหลดไว

ยิ่งเว็บไซต์โหลดเร็วมากแค่ไหน ยิ่งทำให้มีโอกาสได้ Conversion มากขึ้นเท่านั้น เพราะมันทำให้เราใช้งานได้อย่างลื่นไหล คลิกไปที่ไหนก็ได้ผลลัพธ์ที่เร็วทันใจ นอกจากจะดีต่อผู้ใช้งานเว็บไซต์แล้ว ยังดีต่ออันดับ SEO ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างการ Optimize เว็บไซต์ให้โหลดเร็วขึ้น คือ การบีบอัดขนาดรูปภาพ, การย่อขนาดและรวมไฟล์ CSS และ JavaScript, การเลือก Hosting ที่มีประสิทธิภาพ หรือการใช้ Cache เก็บสำเนาเว็บไซต์ เป็นต้น

Backlink คือลิงก์จากเว็บไซต์อื่นที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของเรา เปรียบเสมือนการโหวตให้เว็บไซต์เรา บ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือ และความเกี่ยวข้องของเนื้อหา ซึ่ง Backlink ที่ดีจะต้องมาจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ หรือมีคุณสมบัติ เช่น เนื้อหาเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเรา, มีความน่าเชื่อถือสูง, มีอันดับ SEO ดี, มี Authority สูง, มี Traffic เยอะ และเป็น Backlink แบบ DoFollow เป็นต้น

8. วิเคราะห์ผลลัพธ์อย่างสม่ำเสมอ

วิเคราะห์ผลลัพธ์ของการทำ SEO อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เราทราบว่ากลยุทธ์ SEO ที่เราได้ทำไปนั้นมีประสิทธิภาพหรือไม่ มี Traffic เพิ่มขึ้นไหม อันดับ SEO ดีขึ้นจากเดิมรึเปล่า รวมทั้งยังทำให้เรารู้ด้วยควรปรับปรุงจุดไหน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ให้ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม สำหรับเครื่องมือวิเคราะห์ SEO ที่แนะนำคือ Google Search Console, Google Analytics, Ahrefs และ SEMrush

9. แชร์บทความลง Social Media

การแชร์บทความลง Social Media เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยเพิ่มอันดับ SEO และ Organic Traffic ได้เป็นอย่างดี เพราะการที่ลิงก์เว็บไซต์เราถูกแชร์บน Social Media แสดงว่าเนื้อหาที่เราเขียนไปนั้นดีและมีคุณภาพ รวมทั้งเป็นการส่งสัญญาณให้ Google รับรู้ว่าเว็บไซต์ของเราน่าเชื่อถือนะ (คล้ายกับ Backlink) จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์และอันดับ SEO ได้นั่นเอง

10. ไม่ละเลยการอัปเดตข้อมูล

การอัปเดตข้อมูลบนเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการอัปเดตเนื้อหาในบทความให้สดใหม่ เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการทำ SEO เพราะจะช่วยให้ Traffic, Conversion, Backlink และ Authority ของเว็บไซต์เราสูงขึ้นได้ เช่น เขียนบทความใหม่, การอัปเดตบทความเก่า, การเขียนข่าวสาร, การอัปเดตสินค้าและบริการใหม่ หรือการใส่รูปภาพ วิดีโอ หรือ Infographic เข้าใปเพิ่มเติม เป็นต้น

สรุปบทความเรื่องเทคนิค SEO 

และทั้งหมดนี้ คือเทคนิค SEO ที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของคุณผ่านการติดอันดับบน Google และการเพิ่มขึ้นของ Organic Traffic บนเว็บไซต์ เพื่อนำมาซึ่ง Conversion ตามที่คุณต้องการนั่นเอง การทำ SEO ที่ดีที่สุด จะต้องทำทั้งส่วนของ On-Page SEO, Off-Page SEO และ Technical SEO ควบคู่กันไป จึงจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดโดยแนะนำให้เน้นหนักไปที่ On-Page SEO หรือพวกเนื้อหาในหน้าต่าง ๆ ส่วน Off-Page SEO อาจจะมีการทำ Backlink บ้างเป็นครั้งคราว ส่วน Technical SEO ก็เข้าไปปรับปรุงเมื่อเว็บไซต์มีปัญหา อันดับตก หรือผลลัพธ์แย่ลงจากเดิม และแก้ไปทีละปัญหาอย่างใจเย็นจึงเป็นการดีที่สุด