Backlink คืออะไร อ่านจบแล้วทำตามได้เลย (อัปเดต 2024)

Backlink คืออะไร อ่านจบแล้วทำตามได้เลย (อัปเดต 2024)

Backlink คืออะไร สำคัญกับการทำ SEO ยังไง พร้อมอัปเดตวิธีทำ

การทำให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับบน Google อย่างยั่งยืน เพื่อนำมาซึ่งยอดขายและการเข้าถึงเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ต้องเสียเงินยิงโฆษณาทุก ๆ วัน เรียกว่าการทำ SEO (Search Engine Optimization) แต่การทำ SEO ให้ติดอันดับในหน้าแรกนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต้องอาศัยหลาย ๆ ปัจจัยร่วมกัน และปัจจัยต้น ๆ ของการทำ SEO ให้ติดอันดับการค้นหา นั่นก็คือการทำ Backlink นั่นเอง

ในฐานะที่แอดฉริยะ (ADCHARIYA) เป็นเอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญด้านการทำ SEO โดยเฉพาะ เราจึงจะมาตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำ Backlink SEO ให้คุณทราบกัน ตั้งแต่ Backlink คืออะไร, Backlink มีประโยชน์และสำคัญแค่ไหนในการทำ SEO, ลักษณะของ Backlink ที่ดีเป็นอย่างไร และไปจนถึงวิธีการทำ Backlink ฉบับพื้นฐานในปี 2024 นี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจ นักการตลาด หรือผู้ที่สนใจในการทำ SEO ก็สามารถมาเรียนรู้และทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กันได้ในบทความนี้เลย

รับทำ Backlink

Backlink คือลิงก์ของเว็บไซต์เราที่ถูกกดเข้ามาจากเว็บไซต์อื่น เพื่อดันอันดับ SEO และทำให้คะแนนเว็บไซต์ของเราสูงขึ้น การทำ Backlink เปรียบเสมือนการส่งคะแนนโหวตความน่าเชื่อถือ ยิ่งมีเว็บไซต์ส่ง Backlink กลับมาที่เว็บไซต์ของเรามากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้คะแนนความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์เราสูงขึ้นตามไปด้วย โดย Backlink จัดว่าเป็นหนึ่งในการทำ Off-Page SEO รูปแบบหนึ่ง

Backlink คือ

แต่ใช่ว่าคุณจะทำ Backlink มาจากเว็บไหนก็ได้ คุณจะต้องดูข้อมูลเชิงลึก ตรวจสอบเว็บไซต์ และพิจารณาเลือกเว็บไซต์ให้ดีด้วย เพราะถ้าคุณมองข้ามเรื่องนี้ไป คะแนนเว็บไซต์ของคุณอาจจะติดลบแทนที่จะบวกเพิ่มก็เป็นได้ เนื่องจากในปัจจุบันนี้มีคนทำ Backlink กันจำนวนมาก การแข่งขันสูง และทุกคนต้องการทางลัดที่จะทำให้การทำ Backlink เป็นเรื่องที่ง่ายที่สุด จึงใช้สารพัดเว็บไซต์มาทำแบบเน้นปริมาณของ Backlink มากกว่าคุณภาพ ส่งผลให้คะแนนตกและอันดับร่วงกันเพียบ!

สำหรับใครที่สงสัยว่า “ถ้าเราใส่ลิงก์เว็บไซต์อื่นบนเว็บไซต์ จะนับว่าเป็น Backlink ไหม?” คำตอบคือ “ใช่” โดยลิงก์แบบนี้จะถูกนับเป็น Backlink เช่นเดียวกัน แต่ผู้ที่ได้ประโยชน์ด้าน SEO จะเป็นเว็บไซต์ปลายทาง ไม่ใช่เว็บไซต์ของเรา

เนื่องจากการทำ Backlink ไม่ได้ถูกทำขึ้นมาโดยเจ้าของเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว ยังมีเอเจนซี่หรือผู้ให้บริการด้าน SEO ที่รับจ้างทำ Backlink ขึ้นมาด้วย แถมยังมีปัจจัยเรื่องลักษณะของบทความที่ทำ Backlink และอื่น ๆ ด้วย ดังนั้น Backlink จึงสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท แต่หลัก ๆ แล้วจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทนี้ คือ 1.  แบ่งตามวิธีการได้มาของ Backlink และ 2. แบ่งตามโค้ดที่ถูกกำหนดบนหลังบ้านของเว็บไซต์

ประเภทของ Backlink

1. แบ่งประเภทตามวิธีที่ได้มา

Natural Editorial Link หรือที่เราเรียกว่า Backlink ธรรมชาติ เพราะวิธีการได้มาของ Natural Editorial Link นั้น เจ้าของ URL ปลายทางไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะมีคนกล่าวถึง อ้างอิง หรือทำ Backlink ให้เราโดยธรรมชาติ อาจเป็นเพราะเราเขียนบทความได้ยอดเยี่ยม จนทำให้เว็บไซต์ต้นทางนำข้อมูลไปใช้งาน และทำการอ้างอิงที่มาของคุณมูลกลับมาหาเรานั่นเอง บอกได้เลยว่า Backlink ประเภทนี้เป็น Backlink ที่ทรงคุณค่ามากที่สุดที่ Google ชอบมากเป็นพิเศษ

Manual Links Building คือการสร้างลิงก์ด้วยตนเอง เช่น เว็บไซต์ของแอดฉริยะเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ เราก็จะมองหาเว็บไซต์อื่นที่มีเนื้อหาคล้ายคลึงกับเว็บไซต์ของเรา จากนั้นก็เขียนบทความให้ความรู้ด้านการตลาดออนไลน์ลงบนเว็บไซต์นั้น และ Backlink กลับมา เป็นต้น อาจจะเป็นการขอแลก Backlink หรือซื้อ Backlink มาก็ได้เช่นกัน

Non-Editorial Links หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Spam Backlink เป็น Backlink ที่ Google ไม่ชอบสักเท่าไหร่และแทบจะไม่เพิ่มคะแนนให้แก่เว็บไซต์ของเราเลย เพราะ Non-Editorial Links เป็น Backlink ที่มักจะถูกสร้างขึ้นมาจากเว็บไซต์ที่ไม่มีคุณภาพ เหมือนสร้างมาเพื่อปั่นเพิ่มจำนวน Backlink เพียงอย่างเดียว ซึ่ง Google สามารถแยกได้ว่าต้นทางที่มาของ Backlink นั้นมาจากแหล่งที่ดีหรือไม่ ถ้าไม่ดีและมีการส่งเข้ามาจำนวนมากก็จะถูกจัดอยู่ในหมวดของ Spam Backlink ที่ Google ไม่ได้ให้ค่าหรือความสนใจใด ๆ 

2. แบ่งประเภทตามโค้ดหลังบ้าน

Dofollow Link เป็น Backlink ที่มีส่งพลังให้แก่เว็บไซต์ปลายทางแบบเต็ม ๆ ซึ่งจะส่งผลต่ออันดับ SEO และค่าคะแนนต่าง ๆ ของเว็บไซต์โดยตรง

Nofollow Link เป็น Backlink ที่ถูกตั้งค่าว่าไม่ต้องส่งพลังไปให้แก่เว็บไซต์ปลายทาง หรือกล่าวคือถูกพูดถึงและอ้างอิงจริง แต่ไม่ได้เป็นประโยชน์ใด ๆ กับเว็บไซต์เราเลย (มีก็เหมือนไม่มี) 

Sponsored Backlink คือ การที่เราจ้างเว็บไซต์อื่นให้ลงคอนเทนต์และแปะลิงก์เว็บไซต์ของเราลงไป เพื่อให้เกิดเป็น Backlink ไปที่เว็บไซต์เรา (Backlink ที่เราต้องเสียเงินซื้อ)

UGC Backlink (User Generated Content Backlink) เป็น Backlink ที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ใช้งานทั่ว ๆ ไป ที่ไปโพสต์หรือคอมเมนต์ลิงก์เว็บไซต์เราตามเว็บบอร์ดหรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ในโลกออนไลน์

Backlink มีกี่แบบ
  1. Exact-match Link คือ Backlink ที่ใช้ Keyword ของ URL ปลายทางมาทำเป็น Text Link เช่น รับทำ Backlink หรือบริษัทรับทำโฆษณา Google เป็นต้น
  2. Partial-match Link คือ Text Link ที่เป็นประโยคที่มี Keyword ของ URL ปลายทางอยู่ด้วย เช่น ทำความเข้าใจ Social Media Marketing ได้ที่นี่เลย! 
  3. Generic Link คือ Text Link ที่ใช้ข้อความกระตุ้นให้คนเห็นแล้วอยากคลิก (CTA : Call to Action) เช่น สมัครด่วน, คลิกเลย!, ปรึกษาฟรี! ฯลฯ
  4. Branded Link คือ Backlink ที่ใช้ชื่อแบรนด์หรือชื่อโดเมนของ URL ปลายทางมาทำเป็น Text Link ตัวอย่างคือ ADCHARIYA 
  5. Naked Link คือ การใส่ URL ลงไปโต้ง ๆ เลย โดยที่ไม่ได้ทำการไฮเปอร์ลิงก์ อย่างเช่น http://wordpress-eo0wc80.188.166.213.143.sslip.io/seo-blog-content/
  6. Images Link คือ Backlink ที่ถูกแทรกลงไปในภาพ เมื่อมีคนกดคลิกที่รูปภาพ ระบบก็จะพาผู้ใช้งานไปยัง URL ปลายทาง ซึ่ง Images Link ยังรวมถึง Backlink ที่ถูกแทรกอยู่ใน Description ของภาพด้วยเช่นกัน
  1. สร้าง Backlink จากช่องทางที่ตัวเองมี อาทิ Wikipedia และ Social Media อย่าง Facebook, Twitter, YouTube ฯลฯ
  2. ซื้อ Backlink กับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือและเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ
  3. โพสต์ Backlink ลงบนเว็บบอร์ดหรือเว็บไซต์ที่เปิดพื้นที่ให้ลงฟรี เช่น TrueID, Pantip, Jeban, SistaCafe ฯลฯ ทั้งนี้แต่ละเว็บไซต์ก็จะมีกฎเกณฑ์และข้อกำหนดไม่เหมือนกัน แนะนำให้ตรวจสอบก่อนโพสต์ เพื่อป้องกันไม่ให้คอนเทนต์นั้นถูกลบและถูกแบนไอดี
  4. แลก Backlink กับเว็บไซต์อื่นที่ทำธุรกิจเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่นคุณทำธุรกิจคลินิกศัลยกรรมความงาม อาจจะไปแลกลิงก์กับเว็บไซต์ที่ทำธุรกิจคลินิกเสริมความงามดูแลผิวพรรณ เป็นต้น
  5. ให้ KOL หรือ Influencer แปะลิงก์เว็บไซต์เราลงไปในช่องทางของพวกเขาด้วย อาจจะเป็นการกำหนดเงื่อนไขลงไป เมื่อจ้างรีวิวสินค้าก็ได้
  • Backlink มาจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ มีชื่อเสียง มีเนื้อหาคุณภาพ มีความสวยงาม หรือทุกอย่างบนเว็บไซต์ถูกจัดสรรเรียบเรียงมาเป็นอย่างดี (คะแนน DA, PA, PR สูง และคะแนน Spam ต่ำ)
  • Backlink ถูกส่งมาจากหลาย ๆ โดเมน (ไม่ควรซ้ำกัน เพราะอาจจะดูเป็นสแปมได้)
  • Backlink ถูกส่งมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ถี่จนเกินไป ไม่จำเป็นต้องมีมากกว่า 100 Backlink ของแค่เป็น Backlink คุณภาพแค่หลักสิบก็เพียงพอแล้ว (ถ้าจะจ้างทำ Backlink ต้องเช็กเว็บไซต์ต้นทาง ความถี่ในการทำ และคุณภาพให้ดี ไม่เช่นนั้นจะถูกมองเป็นสแปมและโดนหักคะแนนได้)
  • Backlink เป็น Exact-match Link ดีที่สุด (Text Link ที่ใช้ Keyword ของ URL ปลายทางมาทำ)
  • Backlink ถูกกดมาจากเนื้อหาในบทความ (Blog หรือ Article) และเนื้อหาในบทความนั้นจะต้องมีคุณภาพ สดใหม่ และมีการอัปเดตอยู่เสมอด้วย
  • Backlink ถูกวางไว้ในส่วนบน ๆ ของบทความ เพราะลิงก์ที่อยู่ในตำแหน่งนี้มีโอกาสที่จะถูกกดมากกว่า
  • Backlink เป็น DoFollow Link จะส่งคะแนนมาได้ดีที่สุด แต่ NoFollow Link ก็ไม่ได้แย่ ถึงแม้จะส่งคะแนนให้น้อย แต่ก็ส่งผลดีให้เรามากกว่าการที่เราไม่ได้รับ Backlink ใด ๆ เลย

หากเจอปัญหาเรื่อง Spam Backlink หรือมีการส่ง Backlink มาที่เว็บไซต์เราจำนวนมาก โดยที่เราไม่รู้ที่มาที่ไป และตัวเราไม่ได้จ้างทำแต่อย่างใด ไม่ต้องกังวลใด ๆ เพราะทาง Google สามารถแยกแยะได้ว่า Backlink ที่ดีเป็นอย่างไร และไม่นำ Spam Backlink เหล่านี้มาหักคะแนนอย่างแน่นอน แต่ถ้าคุณไม่สบายใจก็สามารถทำ Disavow Links ผ่านทาง Google Search Console ออกไปได้

บทสรุป


Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *