social media คืออะไร

ทำความรู้จักโซเชียลมีเดีย (Social Media) คืออะไร

โซเชียลมีเดียเปรียบเสมือนโลกที่เชื่อมต่อผู้คนเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะอยู่ประเทศไหน หรือจังหวัดอะไร ก็สามารถสานสัมพันธ์กันได้ทั้งสิ้น ซึ่งโซเชียลมีเดียจะอยู่ในรูปแบบของแพลตฟอร์มที่อยู่บนโลกออนไลน์ จำเป็นต้องอาศัยอินเทอร์เน็ตในการเชื่อมต่อสื่อสารกัน จุดเด่นอยู่ที่สามารถทำให้ผู้ใช้งานแชร์ข้อมูล แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ติดต่อสื่อสาร และสร้างความสัมพันธ์กันได้อย่างง่ายดายและสะดวกรวดเร็ว

Social Media มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คนในปัจจุบันนี้อย่างมาก เพราะทุกคนใช้สิ่งนี้ในการติดตามข่าวสาร เสพความบันเทิง พูดคุยสื่อสารกับคนอื่น ทำธุรกิจ ซื้อขายสินค้า โฆษณาสินค้า หรือแม้กระทั่งการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองด้วยเช่นกัน แล้วโซเชียลมีเดียคืออะไร มีกี่ช่องทาง และมีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร สามารถหาคำตอบได้ในบทความนี้ไปพร้อม ๆ กับ ADCHARIYA ได้เลย

โซเชียลมีเดีย (Social Media) คืออะไร? 

Social Media หรือโซเชียลมีเดีย คือแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้าง แชร์ และโต้ตอบกับเนื้อหาต่าง ๆ กับบุคคลอื่น ๆ ได้แบบทันทีทันใด ผ่านอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน หรือแท็บเล็ต โดยเนื้อหาบนโซเชียลมีเดียก็มีอยู่หลากหลายรูปแบบ ทั้งข้อความ รูปภาพ วิดีโอ บทความ และรวมถึงวิดีโอถ่ายทอดสด (ไลฟ์สด) ด้วยเช่นกัน

โซเชียลมีเดีย (Social Media) มีกี่ประเภท 

โซเชียลมีเดียได้รับความนิยมในวงกว้างและถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย เรียกได้ว่าใครที่มีอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ล้วนใช้งานโซเชียลมีเดียทั้งนั้น โซเชียลมีเดียมีความสำคัญต่อการในชีวิตประจำวันมากกว่าที่หลาย ๆ คนคิด เนื่องจากเราสามารถใช้โซเชียลมีเดียในการพูดคุยกับคนอื่นได้ แม้จะอยู่ไกลแค่ไหนก็ตาม, ติดต่อพูดคุยกับครอบครัวที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานาน, ใช้เจรจาต่อรองการทำธุรกิจ, ใช้ซื้อ-ขายสินค้า, ใช้โฆษณาโปรโมตสินค้าเพื่อเพิ่มยอดขาย ฯลฯ

โดย Social Media ก็มีอยู่หลายประเภท ซึ่งจะมีจุดเด่น ลักษณะของคอนเทนต์ และเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป และนี่คือโซเชียลมีเดียทั้ง 5 ประเภท

ประเภทของโซเชียลมีเดีย (Social Media)

1. โซเชียลเน็ตเวิร์ก (Social Networks)

โซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ใช้ทำความรู้จักและสร้างความสัมพันธ์ได้ง่าย โดยผู้ใช้งานสามารถแชร์ข้อมูลส่วนตัวได้อย่างอิสระ แสดงความคิดเห็นได้ตามที่ต้องการ อยากโพสต์ภาพหรือวิดีโอก็ทำได้ทั้งสิ้น ตัวอย่างของโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ได้รับความนิยมตลอดกาลคือ Facebook, Instagram, X (Twitter) และ LinkedIn

2. แพลตฟอร์มวิดีโอ (Video Platforms)

แพลตฟอร์มวิดีโออย่าง YouTube, TikTok หรือ Vimeo เป็นแพลตฟอร์มที่มีเนื้อหาอยู่ในรูปแบบของวิดีโอทั้งสั้นและยาว โดยเนื้อหาในแพลตฟอร์มก็มีอยู่สารพัดสิ่ง เช่น ความบันเทิง, ไลฟ์สไตล์, ความรู้, การแต่งหน้า, แฟชั่น, การทำอาหาร, การพัฒนาตนเอง, การออกกำลังกาย ฯลฯ ครีเอเตอร์สามารถโพสต์วิดีโอเพื่อสร้างฐานคนดูได้ ส่วนผู้ใช้งานก็สามารถเลือกวิดีโอที่ต้องการเสพได้อย่างอิสระ

3. แพลตฟอร์มแชร์รูปภาพ (Photo Sharing Platforms)

แพลตฟอร์มแชร์รูปภาพจะเน้นการโพสต์รูปภาพเป็นหลัก โดยส่วนใหญ่จะโพสต์รูปภาพที่แสดงถึงความสนใจและไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ตัวอย่างของแพลตฟอร์มแชร์รูปภาพที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากคือ Instagram และ Pinterest

4. บล็อก (Blogs)

Blog จะเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลและเนื้อหาต่าง ๆ ในรูปแบบของบทความ มีทั้งบทความยาวและบทความสั้น รวมถึงในเนื้อหาก็สามารถสอดแทรกภาพและวิดีโอประกอบเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นได้ ตัวอย่างแพลตฟอร์มรูปแบบบล็อกคือ Medium, WordPress และ Blogger

5. ฟอรัม (Forums)

ฟอรัมเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้คนใช้ในการแชร์เรื่องราว แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ตั้งคำถาม และขอข้อมูลในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถตั้งกระทู้และแสดงความคิดเห็นได้ ตัวอย่างแพลตฟอร์มแบบฟอรัมคือ Quora, Reddit และ Pantip

ประโยชน์ของโซเชียลมีเดีย (Social Media) ช่วยธุรกิจได้ยังไง

Social Media Marketing หรือการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญสำหรับการทำธุรกิจในปัจจุบัน เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในจำนวนมาก แบรนด์สามารถใช้โซเชียลมีเดียโปรโมตสินค้าหรือบริการได้อย่างเต็มที่ ใช้ในการสร้างภาพลักษณ์ แบ่งปันความรู้ และนำเสนอสิ่งต่าง ๆ ได้เลยเรียกได้ว่าเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงในการสร้างการเติบโตให้แก่แบรนด์เลยก็ว่าได้

1. เพิ่มการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness)

โซเชียลมีเดียช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก, เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวาง, ทำให้ผู้คนรู้จักและจดจำแบรนด์ และสามารถสร้างฐานลูกค้าได้ดีมาก ด้วยการใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เช่น สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ใช้คำที่ดึงดูดความสนใจ และกระตุ้นให้คนเข้ามามีส่วนร่วม เป็นต้น

รวมถึงการใช้ Influencer Marketing ร่วมด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นแบรนด์ Nike แบรนด์รองเท้ากีฬาชื่อดัง มักใช้โซเชียลมีเดียในการแชร์เรื่องราวแรงบันดาลใจของนักกีฬา ดารา และบุคคลที่มีชื่อเสียง เพื่อสร้างความสนใจจากผู้ติดตามคนดัง และทำให้พวกเขาจดจำแบรนด์ เป็นต้น

2. สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship)

โซเชียลมีเดียช่วยให้แบรนด์สามารถโต้ตอบกับลูกค้า แชร์ความคิดเห็น ตอบคำถาม และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้ ซึ่งจะเป็นผลดีที่มีส่วนให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าซ้ำ อย่างการสร้างกลุ่มบนโซเชียลมีเดียที่มีสมาชิกเป็นลูกค้าของแบรนด์ เหล่าลูกค้าสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นในพื้นที่นั้นได้ และแบรนด์ก็สามารถรับรู้ได้ว่าลูกค้าต้องการอะไร จากนั้นก็นำข้อมูลไปต่อยอดและพัฒนาสินค้าให้ออกมาตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด

ยกตัวอย่างเช่นแบรนด์ AIS ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ มักใช้โซเชียลมีเดียในการตอบคำถามผู้ใช้บริการ แก้ปัญหาเบื้องต้น และให้ความช่วยเหลือลูกค้าในการแก้ปัญหาหรือติดต่อประสานงานกับฝ่ายต่าง ๆ ทำให้ลูกค้าประทับใจ เกิดความภักดีต่อแบรนด์ และต่อสัญญากับ AIS ต่อไป

3. โปรโมตสินค้าและบริการ (Product & Service Promotion)

โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางที่ใช้ในการนำเสนอสินค้าและบริการ รวมถึงแชร์ข้อมูล โปรโมชัน และสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ดีที่สุด เนื่องจากเป็นช่องทางที่ใกล้ชิดกับกลุ่มลูกค้ามาก ดังนั้นการหันมาใช้เครื่องมือโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย จึงช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายให้กับธุรกิจได้

เช่น Shopee แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ มักใช้โซเชียลมีเดียโปรโมตสินค้า โปรโมชัน และแคมเปญต่าง ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อบนแพลตฟอร์มของตน

4. เพิ่มยอดขาย (Sales)

การทำ Social Media Marketing ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้า โปรโมตสินค้า และสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ทันที ดังนั้นแนะนำให้เจ้าของแบรนด์เลือกใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย เพื่อช่วยให้แบรนด์เข้าใจพฤติกรรมลูกค้ามากขึ้น จะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปพัฒนาสินค้าและบริการ และเพิ่มโอกาสในการขายให้มากขึ้นต่อไป เช่น แบรนด์ Sephora ร้านขายเครื่องสำอาง มักใช้โซเชียลมีเดียแนะนำสินค้า รีวิว บทความ และใช้ Influencer Marketing ในการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ

5. สร้างภาพลักษณ์ที่ดี (Brand Image)

โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางที่จะช่วยให้แบรนด์สร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือได้ง่ายที่สุด เพราะแบรนด์สามารถควบคุมคอนเทนต์ได้ตามที่ต้องการ อาจจะสร้างคอนเทนต์บอกเล่าที่มาที่ไป เบื้องหลังความสำเร็จ การพัฒนาสังคม หรือแนะนำจุดเด่นของสินค้าก็ได้ ตัวอย่างเช่น Starbucks ร้านกาแฟชื่อดัง มักใช้โซเชียลมีเดียแชร์เรื่องราวความยั่งยืน สนับสนุนชุมชน และสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่ใส่ใจ

ช่องทางการทำ Social Media ที่นิยมในปี 2024 

Social Media Marketing สามารถทำได้หลายช่องทาง ซึ่งโซเชียลมีเดียแต่ละช่องทางก็จะมีจุดเด่น ข้อจำกัด และรูปแบบของเนื้อหาที่เหมาะสมแตกต่างกันไป โดยช่องทางหลัก ๆ ที่นิยมใช้ในการทำ Social Media Marketing ได้แก่

1. TikTok 

จุดเด่น:

  • เน้นวิดีโอสั้น เน้นเนื้อหาที่มีความบันเทิง
  • เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย Gen Z ได้ดี
  • เทรนด์ใหม่เกิดขึ้นเร็วมาก
  • เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการสร้างไวรัล
  • เครื่องมือโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ
  • รองรับวิดีโอรูปแบบใหม่ เช่น Stitch, Duet, Live Q&A
  • มีฟีเจอร์สำหรับธุรกิจ เช่น TikTok Business Account

ข้อจำกัด:

  • เนื้อหาวิดีโอมีรูปแบบที่จำกัด
  • อายุการใช้งานของเนื้อหาสั้น
  • การแข่งขันสูง
  • ผู้ใช้งานบางกลุ่มอาจมองว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มสำหรับเด็ก

ตัวอย่าง:

  • แบรนด์เครื่องสำอาง L’Oreal Paris ใช้ TikTok โปรโมตสินค้าผ่านวิดีโอสั้น
  • แบรนด์อาหาร KFC ใช้ TikTok โปรโมตเมนูใหม่ผ่านวิดีโอตลก
  • แบรนด์เสื้อผ้า Uniqlo ใช้ TikTok โปรโมตสินค้าผ่านวิดีโอ Stitch

2. Instagram 

จุดเด่น:

  • เน้นการแชร์รูปภาพและวิดีโอ
  • เหมาะสำหรับสินค้าที่เน้นภาพลักษณ์
  • เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย Gen Z ได้ดี
  • เหมาะสำหรับการทำ Influencer Marketing
  • รองรับวิดีโอรูปแบบใหม่ เช่น Reels, IGTV
  • มีฟีเจอร์สำหรับธุรกิจ เช่น Instagram Business Account

ข้อจำกัด:

  • เนื้อหาข้อความมีจำกัด
  • ฟีเจอร์การโฆษณาไม่หลากหลายเท่า Facebook
  • อัลกอริทึมเปลี่ยนแปลงบ่อย
  • การแข่งขันสูง

ตัวอย่าง:

  • แบรนด์เสื้อผ้า Nike ใช้ Instagram โปรโมตสินค้าผ่านรูปภาพและวิดีโอ
  • แบรนด์เครื่องสำอาง MAC Cosmetics ใช้ Instagram โปรโมตสินค้าผ่าน Influencer Marketing
  • แบรนด์ร้านอาหาร Starbucks ใช้ Instagram โปรโมตสินค้าผ่าน Instagram Reels

3. YouTube

จุดเด่น:

  • แชร์วิดีโอความยาวต่าง ๆ ได้หลากหลาย
  • เหมาะสำหรับการนำเสนอสินค้า บริการ และสร้างคอนเทนต์
  • เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวาง
  • รองรับวิดีโอรูปแบบใหม่ เช่น Shorts
  • มีฟีเจอร์สำหรับธุรกิจ เช่น YouTube BrandConnect

ข้อจำกัด:

  • การผลิตวิดีโอมีค่าใช้จ่าย
  • การแข่งขันสูง
  • อัลกอริทึมเปลี่ยนแปลงบ่อย
  • ผู้ใช้งานบางกลุ่มอาจมองว่า YouTube เป็นแพลตฟอร์มสำหรับวิดีโอความยาว

ตัวอย่าง:

  • แบรนด์รถยนต์ Toyota ใช้ YouTube โปรโมตสินค้าผ่านวิดีโอรีวิว
  • แบรนด์อาหาร Unilever ใช้ YouTube โปรโมตสินค้าผ่านวิดีโอสอนทำอาหาร
  • แบรนด์เครื่องสำอาง L’Oreal Paris ใช้ YouTube โปรโมตสินค้าผ่าน YouTube Shorts

4. LINE

จุดเด่น:

  • ผู้ใช้งานจำนวนมาก
  • เหมาะสำหรับการสื่อสารโดยตรงกับลูกค้า
  • มีฟีเจอร์สำหรับธุรกิจ เช่น LINE Official Account, LINE Ads Platform
  • รองรับรูปแบบข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และสติกเกอร์
  • ผู้ใช้งานส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการใช้งาน LINE

ข้อจำกัด:

  • การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ยาก
  • ฟีเจอร์การโฆษณาไม่หลากหลายเท่า Facebook
  • รูปแบบการใช้งานอาจดูล้าสมัย

ตัวอย่าง:

  • แบรนด์ร้านอาหาร Starbucks ใช้ LINE Official Account โปรโมตโปรโมชัน
  • แบรนด์เครื่องสำอาง L’Oreal Paris ใช้ LINE Official Account ตอบคำถามลูกค้า
  • แบรนด์เสื้อผ้า Uniqlo ใช้ LINE Ads Platform โปรโมตสินค้าใหม่

5. Facebook

จุดเด่น:

  • ผู้ใช้งานจำนวนมาก
  • เครื่องมือโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ
  • เหมาะสำหรับการโปรโมตสินค้า บริการ และสร้างแบรนด์
  • รองรับรูปแบบข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และไลฟ์สด
  • มีฟีเจอร์สำหรับธุรกิจ เช่น Facebook Business Page, Facebook Blueprint

ข้อจำกัด:

  • การแข่งขันสูง
  • อัลกอริทึมเปลี่ยนแปลงบ่อย
  • เนื้อหาบางประเภทอาจเข้าถึงผู้ใช้งานได้น้อย
  • ผู้ใช้งานบางกลุ่มอาจมองว่า Facebook เป็นแพลตฟอร์มสำหรับผู้สูงอายุ

ตัวอย่าง:

  • แบรนด์เสื้อผ้า Uniqlo ใช้ Facebook โปรโมตสินค้าผ่านโพสต์และโฆษณา
  • แบรนด์โทรศัพท์มือถือ Samsung ใช้ Facebook โปรโมตสินค้าผ่าน Facebook Live
  • แบรนด์เครื่องสำอาง L’Oreal Paris ใช้ Facebook Blueprint เรียนรู้เทคนิคการโฆษณา

สรุปบทความเกี่ยวกับโซเชียลมีเดีย (Social Media) 

Social Media หรือโซเชียลมีเดียคือแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร สร้างคอนเทนต์ แบ่งปันเรื่องราว และสร้างยอดขายให้แก่ธุรกิจ ซึ่งจะมีอยู่หลายรูปแบบทั้งโซเชียลเน็ตเวิร์ก, วิดีโอ, รูปภาพ, บล็อก และฟอรัมโดยแพลตฟอร์มโซเซียลมีเดียที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ในปัจจุบันคือ TikTok, Facebook, YouTube, LINE, Facebook ฯลฯ ซึ่งคุณสามารถทุ่มงบยิงโฆษณาหรือทำการตลาดผ่านช่องทางเหล่านี้ได้เลย เพราะมีโอกาสที่จะประสบผลสำเร็จสูงมาก! หรือจะให้เอเจนซี่ด้านการตลาดอย่างแอดฉริยะช่วยดูแลและให้คำแนะนำก็ได้เช่นกัน รับรองว่าตอบโจทย์ธุรกิจและสร้างยอดขายได้ปังขึ้นแน่นอน


Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *