ตอนนี้หลาย ๆ องค์กรได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) เข้ามาช่วยในการทำงานกันบ้างแล้ว เพราะ AI ช่วยให้ขั้นตอนการทำงานง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพที่ดีด้วย บางคนอาจจะคิดว่าถ้าอยากใช้ AI ดี ๆ ต้องเสียค่าใช้จ่ายซื้อแพ็กเกจพรีเมียมเท่านั้น บอกเลยว่าไม่จำเป็น เพราะมี AI ฟรีที่มีคุณภาพดีเยี่ยมให้เลือกใช้งานเพียบ แถมยังตอบโจทย์ทุกสายงานอีกด้วย ADCHARIYA ได้รวบรวมและคัดเลือก 10 เครื่องมือ AI ฟรีมาไว้ให้คุณแล้ว ไปติดตามอ่านและเลือกใช้ AI ให้ตอบโจทย์รูปแบบการทำงานได้เลย
1. Gemini
Gemini คือ AI ฟรีที่พัฒนาโดย Google ซึ่งย่อมาจากคำว่า “Google Embodied Machine Intelligence” มีความโดดเด่นในการประมวลผลข้อมูลที่หลากหลายรูปแบบพร้อมกัน ทั้งข้อความ รูปภาพ และเสียง โดย Gemini สามารถเข้าใจบริบทและสร้างการเชื่อมโยงระหว่างข้อมูลได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเนื้อหา ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล แก้ไขโค้ด หรือตอบคำถามที่ซับซ้อนก็ตาม
- สรุปและวิเคราะห์เอกสารขนาดใหญ่
- สร้างเนื้อหาตามโจทย์ที่กำหนด
- แปลงข้อมูลซับซ้อนให้เข้าใจง่าย
- ช่วยวางแผนและจัดระบบการทำงาน
2. ChatGPT
ChatGPT คือ AI แบบแชตบอตที่พัฒนาโดย OpenAI เปิดตัวในช่วงปลายปี 2565 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ด้วยความสามารถในการสนทนาที่เป็นธรรมชาติคล้ายมนุษย์ ChatGPT ถูกฝึกฝนด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาลบนอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถตอบคำถามได้อย่างครอบคลุมในหลากหลายหัวข้อ พร้อมจดจำบริบทการสนทนาต่อเนื่องได้อย่างดีเยี่ยม
- สร้างเนื้อหาตั้งแต่บทความ จดหมาย อีเมล บทกวี ไปจนถึงสคริปต์โค้ด
- ช่วยระดมความคิดและเสนอมุมมองที่มนุษย์อาจมองข้าม
- อธิบายแนวคิดที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย
- ช่วยตรวจทานและปรับปรุงเนื้อหาที่เขียนให้ดีขึ้น
3. Midjourney Ai
Midjourney AI เป็นเครื่องมือสร้างภาพด้วย AI ฟรี ที่ทำงานผ่านแพลตฟอร์ม Discord พัฒนาโดยทีม Midjourney ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างเทคโนโลยีที่ขยายขอบเขตจินตนาการของมนุษย์ วิธีใช้งานนั้นเรียบง่าย เพียงพิมพ์คำอธิบายภาพที่ต้องการ (Prompt) แล้ว AI จะสร้างภาพให้ภายในไม่กี่นาที จุดเด่นของ Midjourney คือความสามารถในการสร้างภาพที่มีคุณค่าทางศิลปะสูง มีความละเอียดและสวยงาม จนบางครั้งแยกไม่ออกว่าเป็นภาพที่สร้างโดย AI
- สร้างภาพประกอบสำหรับบทความหรือหนังสือ
- ออกแบบคอนเซ็ปต์อาร์ตสำหรับโปรเจกต์ต่าง ๆ
- สร้างภาพโฆษณาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
- ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในงานออกแบบ
4. Perplexity.ai
Perplexity.ai เป็นเครื่องมือค้นหาแบบใหม่ที่ทำงานด้วย AI โดยไม่ได้แสดงลิงก์เหมือน Google เท่านั้น แต่ยังอ่านและสรุปข้อมูลจากหลายแหล่งให้คุณด้วย เหมือนมีผู้ช่วยที่อ่านทุกเว็บไซต์แล้วสรุปคำตอบที่ดีที่สุดมาให้ Perplexity ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ทำงานร่วมกับระบบค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ทำให้ได้คำตอบที่แม่นยำ ทันสมัย และที่สำคัญคือมีการอ้างอิงแหล่งที่มาชัดเจน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ตลอดเวลา
- การตอบคำถามที่ซับซ้อนโดยไม่จำกัดเพียงแค่คีย์เวิร์ดสั้น ๆ
- การวิเคราะห์ไฟล์ PDF เอกสาร หรือวิดีโอ YouTube
- ความสามารถในการสรุปข้อมูลจำนวนมากให้กระชับได้ดี
- การแชร์ผลลัพธ์ได้ทั้งแบบสาธารณะและส่วนตัว
5. QuillBot
QuillBot คือ AI ฟรี ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้ช่วยด้านการเขียนอัจฉริยะของคุณ โดยใช้ AI มาสร้างเครื่องมือครบวงจรสำหรับปรับปรุงงานเขียนภาษาอังกฤษ มีความเชี่ยวชาญในการปรับโครงสร้างประโยคโดยคงความหมายเดิม (Paraphrasing) และทำให้การเขียนมีความหลากหลาย น่าสนใจมากขึ้น QuillBot ยังมีเครื่องมือสำคัญอื่น ๆ ที่รวมอยู่ในแพลตฟอร์มเดียว เช่น ตัวตรวจไวยากรณ์ ตัวสรุปความ ตัวตรวจการลอกเลียนแบบ และตัวสร้างการอ้างอิง ตอบโจทย์นักเขียนเป็นที่สุด
- ปรับเปลี่ยนระดับความเป็นทางการและโทนของเนื้อหาได้
- แนะนำคำศัพท์ที่เหมาะสมและหลากหลาย
- ตรวจจับข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์และการสะกดคำ
- ช่วยสรุปเนื้อหายาวให้กระชับโดยคงใจความสำคัญ
6. Claude
Claude คือ AI ฟรีระดับแนวหน้าที่พัฒนาโดยบริษัท Anthropic โดยเฉพาะ Claude 3 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุด ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในโมเดล AI ที่ฉลาดที่สุดในโลกปี 2024 จุดเด่นของ Claude คือความสามารถในการเข้าใจภาษามนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะภาษาไทย อีกทั้ง Claude ยังถูกออกแบบมาให้มีความปลอดภัยและความโปร่งใสสูง โดยสามารถอธิบายเหตุผลในการให้คำตอบได้อย่างชัดเจน
- วิเคราะห์และสรุปเอกสารยาวได้อย่างแม่นยำ
- สร้างและแก้ไขโค้ดในหลากหลายภาษาโปรแกรมมิ่ง
- แปลภาษาด้วยความเป็นธรรมชาติ ปรับโทนการเขียนได้ตามต้องการ
- วิเคราะห์รูปภาพและอธิบายรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน
7. Clearscope
Clearscope เป็น AI ฟรีที่เปรียบเสมือนเป็นเครื่องมือ SEO ช่วยวิเคราะห์และปรับปรุงเนื้อหาให้ติดอันดับบน Google ได้ดีขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) และการเรียนรู้ของเครื่อง Clearscope จะช่วยวิเคราะห์คำหลักที่ควรใช้ในบทความ เปรียบเทียบเนื้อหาของคุณกับเนื้อหาที่ติดอันดับสูง และให้คะแนนเนื้อหาของคุณ ทำให้คุณรู้ว่าต้องปรับแก้อะไรบ้างเพื่อให้บทความมีโอกาสติดอันดับสูงขึ้น
- วิเคราะห์คีย์เวิร์ดและคำที่เกี่ยวข้องที่ควรใส่ในบทความ
- แนะนำโครงสร้างเนื้อหาที่ควรมีในบทความ
- ตรวจสอบความยากง่ายในการอ่านเนื้อหา
- เปรียบเทียบกับบทความที่ติดอันดับสูงบน Google
8. Venngage
Venngage เป็นเครื่องมือออกแบบกราฟิกออนไลน์ที่มีความสามารถพิเศษในการสร้างอินโฟกราฟิกสวย ๆ อย่างง่ายดาย มาพร้อมกับฟีเจอร์ AI ที่ช่วยออกแบบให้อัตโนมัติ ไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิกก็สร้างงานสวยได้ Venngage มีเทมเพลตมากกว่า 1,000 แบบให้เลือกใช้ ทั้งอินโฟกราฟิก รายงาน แผนภูมิ โปสเตอร์ และสไลด์นำเสนอ โดย AI จะช่วยคุณเลือกเทมเพลตที่เหมาะสมและปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการของคุณ
- สร้างอินโฟกราฟิกสวย ๆ จากข้อมูลที่คุณป้อน
- ออกแบบรายงานประจำปีหรือรายงานวิจัยให้น่าอ่าน
- สร้างสไลด์นำเสนอที่ดึงดูดความสนใจ
- ออกแบบโปสเตอร์และภาพบนโซเชียลมีเดีย
9. Microsoft Designer
Microsoft Designer เครื่องมือออกแบบกราฟิกที่ขับเคลื่อนด้วย AI จาก Microsoft ช่วยให้คุณสร้างภาพและงานออกแบบสวย ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เพียงพิมพ์คำอธิบายว่าคุณต้องการภาพแบบไหน AI จะสร้างงานออกแบบให้ในไม่กี่วินาที จุดเด่นของ Microsoft Designer คือการทำงานร่วมกับแอปอื่น ๆ ของ Microsoft เช่น Word และ PowerPoint ทำให้คุณสามารถเพิ่มกราฟิกสวย ๆ ลงในงานได้ทันที
- สร้างรูปภาพจากคำอธิบายง่าย ๆ
- แก้ไขรูปภาพให้ดูเป็นมืออาชีพ
- เลือกใช้เทมเพลตที่ออกแบบมาอย่างดี
- ปรับแต่งงานออกแบบได้ตามต้องการ
10. Unbounce
Unbounce เป็นเครื่องมือสร้าง Landing Page ที่ไม่ต้องเขียนโค้ด ช่วยให้คุณสร้างหน้าเว็บที่ดึงดูดความสนใจและช่วยเพิ่มอัตราการเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมให้เป็นลูกค้า (Conversion Rate) ได้ดี Unbounce มีเทมเพลตมากกว่า 100 แบบที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มยอดขาย เพิ่มการลงทะเบียน หรือสร้างลูกค้าใหม่ และยังมี AI ช่วยปรับแต่งหน้าเว็บให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคุณด้วย
- สร้าง Landing Page ที่ดูเป็นมืออาชีพแบบลากวางง่าย ๆ
- ทดสอบหน้าเว็บแบบ A/B เพื่อดูว่าแบบไหนได้ผลดีกว่า
- ปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะกับผู้เยี่ยมชมแต่ละคน
- วิเคราะห์ผลการทำงานของหน้าเว็บและปรับปรุงให้ดีขึ้น
สรุป
เป็นยังไงกันบ้างกับ 10 เครื่องมือ AI ฟรีที่เราเอามาฝากกัน มั่นใจได้เลยว่าระยะเวลาในการทำงานของคุณจะสั้นลงและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบทความ SEO, ออกแบบรูปภาพ, ค้นหาข้อมูล, วิเคราะห์ข้อมูล หรือทำ SEO ก็ตาม ลองเลือก AI ที่ตอบโจทย์เป้าหมายของคุณได้เลย แม้จะเป็น AI ฟรี แต่ก็ปฏิเสธประสิทธิภาพของมันไม่ได้เลย หลาย ๆ ตัวมีฟีเจอร์พื้นฐานที่ครบครัน แต่ถ้าคุณอยากใช้มากขึ้น ก็สามารถสมัครแพ็กเกจพรีเมียมเพิ่มได้ อย่างไรก็ตามการใช้ AI ฟรีมาสร้างสรรค์ผลงาน 100% เป็นเรื่องที่เราไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่นัก แนะนำให้นำมาปรับแต่งเพิ่มเติมและสอดแทรกความคิดสร้างสรรค์ในมุมของมนุษย์ลงไปด้วย จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว โดยเฉพาะในด้านของงานเขียนบนเว็บไซต์

Leave a Reply