- 1. นักการตลาดดิจิทัล (Digital Marketer)
 - 2. นักวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด (Marketing Data Analyst)
 - 3. ที่ปรึกษาทางธุรกิจ (Business Consultant)
 - 4. นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis)
 - 5. นักเขียนบทความ (Content Writer)
 - 6. นักเขียนบทความ SEO (SEO Content Writer)
 - 7. ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO (SEO Specialist)
 - 8. นักเขียนคำโฆษณา (Copywriter)
 - 9. นักออกแบบเว็บไซต์ (Web Designer)
 - 10. นักออกแบบ UX/UI (UX/UI Designer)
 - 11. นักพัฒนาเว็บไซต์ (Web Developer)
 - 12. นักพัฒนาแอปพลิเคชัน (App Developer)
 - 13. นักยิงโฆษณา (Ads Optimizer)
 - 14. อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer)
 - 15. คอนเทนต์ครีเอเตอร์ (Content Creator)
 - 16. นักออกแบบกราฟิก (Graphic Designer)
 - 17. นักสร้างแอนิเมชั่น (Animator)
 - 18. นักตัดต่อวิดีโอ (Video Editor)
 - 19. ช่างภาพ (Photographer)
 - 20. นักเขียนบทภาพยนตร์ (Screenwriter)
 - 21. นักวาดภาพประกอบ (Illustrator)
 - 22. ยูทูบเบอร์ (YouTuber)
 - 23. พิธีกร (MC)
 - 24. นักไลฟ์สตรีมเกม (Game Livestreamer)
 - 25. นักเขียนนิยาย (Fiction Writer)
 - 26. ครูสอนพิเศษ (Tutor)
 - 27. ขายของออนไลน์ (Online Seller)
 - 28. นักออกแบบท่าเต้น (Choreographer)
 - 29. นักอ่านไพ่ (Tarot Reader)
 - 30. นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Agent)
 - สรุป
 
ถ้าพูดถึงอาชีพการงาน หลาย ๆ คนคงจะนึกถึงงานประจำ (Full time job) ขึ้นมาเป็นอันดับแรก แต่รู้ไหมว่ามีคนไม่น้อยเลยที่เลือกทำอาชีพฟรีแลนซ์ (Freelance) แบบเต็มตัวหรือไม่ก็ทำควบคู่กับงานประจำไปด้วย ฟรีแลนซ์คืออะไร? ฟรีแลนซ์คืองานอิสระที่คุณจะทำเมื่อไหร่ที่ไหนก็ได้ แถมไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน เพียงแค่คุณสามารถรับผิดชอบงานและส่งงานได้ตามกำหนดการก็พอ ได้รับค่าจ้างเป็นรายชิ้นหรือโปรเจกต์ ยิ่งทำมาก ยิ่งได้มาก หลายคนรวยเพราะอาชีพนี้มาแล้ว! แล้วอาชีพฟรีแลนซ์มีอะไรบ้าง? ถ้าอยากรู้ต้องอ่านบทความนี้ ADCHARIYA (แอดฉริยะ) รวบรวม 30 อาชีพฟรีแลนซ์ยอดนิยมที่ได้เงินดีมาฝากกัน ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยว่าอาชีพฟรีแลนซ์มีอะไรบ้างที่น่าทำในปี 2025
1. นักการตลาดดิจิทัล (Digital Marketer)
นักการตลาดดิจิทัล (Digital Marketer) คือเป็นคนวางแผนการตลาดออนไลน์ เพื่อโปรโมตสินค้าและธุรกิจตามวัตถุประสงค์ที่แบรนด์ต้องการ นอกจากการวิเคราะห์และวางแผนการโปรโมตสินค้าแล้ว อาจจะเป็นผู้สร้างและเผยแพร่คอนเทนต์เองด้วย คนที่ทำฟรีแลนซ์ตำแหน่งนี้จะต้องเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์มได้
2. นักวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด (Marketing Data Analyst)
นักวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด (Marketing Data Analyst) คือผู้เชี่ยวชาญที่นำข้อมูลจากแคมเปญการตลาดมาวิเคราะห์และตีความ พวกเขาใช้เครื่องมือวิเคราะห์ต่าง ๆ เพื่อค้นหาว่าอะไรทำงานได้ดี อะไรควรปรับปรุง และแนะนำแนวทางให้ทีมการตลาดตัดสินใจอย่างมีข้อมูลรองรับ
3. ที่ปรึกษาทางธุรกิจ (Business Consultant)
ที่ปรึกษาทางธุรกิจ (Business Consultant) คือผู้ให้คำแนะนำด้านการบริหารและพัฒนาธุรกิจแก่องค์กรต่าง ๆ ซึ่งจะเข้าไปช่วยวิเคราะห์ปัญหา วางแผนกลยุทธ์ และเสนอแนวทางการแก้ไขหรือปรับปรุงระบบงาน โดยอาศัยความรู้และประสบการณ์ในวงการธุรกิจที่มีอยู่
4. นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis)
นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis) คือผู้ที่ทำงานกับข้อมูลจำนวนมาก สามารถจัดระเบียบ แปลความหมาย และนำเสนอข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่เข้าใจง่ายได้ ทักษะเด่นคือการใช้เครื่องมือวิเคราะห์และภาษาโปรแกรมมิ่งต่าง ๆ เพื่อค้นหาแนวโน้มหรือรูปแบบที่ซ่อนอยู่ในข้อมูล ซึ่งช่วยให้องค์กรตัดสินใจได้ดีขึ้น
5. นักเขียนบทความ (Content Writer)
นักเขียนบทความ (Content Writer) คือคนที่มีหน้าที่สร้างเนื้อหาเป็นข้อความในรูปแบบต่าง ๆ เช่น บทความบนเว็บไซต์ บทความรีวิวบนโซเชียลมีเดีย ข้อความโฆษณา หรือเนื้อหาอื่น ๆ ทักษะที่ต้องมีคือการเขียนที่ดี เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย และสามารถปรับโทนเสียงให้เหมาะกับแต่ละงานที่ได้รับได้
6. นักเขียนบทความ SEO (SEO Content Writer)
นักเขียนบทความ SEO (SEO Content Writer) คือคนที่เขียนเนื้อหาตามหลัก SEO (Search Engine Optimization) และเผยแพร่ไปบนเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าแสดงผลการค้นหาของ Google โดยเนื้อหาจะต้องตรงใจกับสิ่งที่ผู้อ่านต้องการ มีคุณภาพ และตรงกับเกณฑ์ที่ Google แนะนำ
7. ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO (SEO Specialist)
ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO (SEO Specialist) คือคนที่ทำให้เว็บไซต์ปรากฏอยู่ในหน้าแรกของ Google โดยไม่ต้องจ่ายเงินโฆษณา Google Ads หน้าที่หลัก ๆ คือการวิเคราะห์และปรับแต่งเว็บไซต์ ทั้งส่วนที่มองเห็น (เนื้อหา) และส่วนเบื้องหลัง (โค้ด โครงสร้างเว็บ) เพื่อให้ตรงกับสิ่งที่ Google ต้องการ ต้องอาศัยความรู้ด้านเทคนิคมากมาย ตั้งแต่การวิเคราะห์คำค้นหา การสร้างลิงก์ ไปจนถึงการแก้ปัญหาทางเทคนิคต่าง ๆ
8. นักเขียนคำโฆษณา (Copywriter)
นักเขียนคำโฆษณา (Copywriter) คือคนที่เขียนข้อความสั้น ๆ แต่ทรงพลังเพื่อดึงดูดความสนใจและกระตุ้นให้คนลงมือทำบางอย่าง เช่น ซื้อสินค้า สมัครสมาชิก หรือกดติดตาม พวกเขาเชี่ยวชาญการเลือกใช้คำที่กระชับ โดนใจ และสื่อสารข้อความสำคัญได้ในเวลาอันรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นสโลแกน ข้อความบนป้าย หรือคำโปรยในโฆษณา
9. นักออกแบบเว็บไซต์ (Web Designer)
นักออกแบบเว็บไซต์ (Web Designer) คือผู้ออกหน้าตาและโครงสร้างของเว็บไซต์ให้สวยงามและใช้งานง่าย ตั้งแต่เลือกโทนสี ฟอนต์ จัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ และออกแบบภาพรวมให้เข้ากับเอกลักษณ์ของแบรนด์ งานนี้ต้องเข้าใจทั้งหลักการออกแบบและพื้นฐานการทำงานของเว็บ เพื่อให้ออกแบบออกมาแล้วสามารถใช้งานได้จริง ไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียว
10. นักออกแบบ UX/UI (UX/UI Designer)
นักออกแบบ UX/UI (UX/UI Designer) คือคนที่ทำให้แอปและเว็บไซต์ใช้งานง่ายและน่าใช้ UX ดูแลเรื่องประสบการณ์โดยรวม เช่น ทำอย่างไรให้คนใช้งานไม่หลงทางบนเว็บไซต์ ส่วน UI ดูแลหน้าตาองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น ปุ่มควรวางตรงไหน ทำอย่างไรให้ปุ่ม CTA น่ากด
11. นักพัฒนาเว็บไซต์ (Web Developer)
นักพัฒนาเว็บไซต์ (Web Developer) คือคนที่เขียนโค้ดและทำให้เว็บไซต์ใช้งานได้จริง ทั้งในส่วนที่เห็น (หน้าเว็บ) และส่วนที่มองไม่เห็น (ระบบเบื้องหลัง) ต้องรู้ภาษาโปรแกรมมิ่งหลายตัว เช่น HTML, CSS, JavaScript รวมถึงเทคโนโลยีเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ งานนี้เน้นทำให้เว็บโหลดเร็ว รองรับการใช้งานบนมือถือ และเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลได้อย่างปลอดภัย
12. นักพัฒนาแอปพลิเคชัน (App Developer)
นักพัฒนาแอปพลิเคชัน (App Developer) คือคนที่สร้างโปรแกรมสำหรับสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต ไม่ว่าจะเป็น iOS หรือ Android ต้องเขียนโค้ด ออกแบบระบบ และทดสอบให้แอปทำงานได้อย่างราบรื่น งานนี้ต้องเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ตลอดเวลา เพราะระบบปฏิบัติการมือถือมีการอัปเดตบ่อย นอกจากนี้ยังต้องเข้าใจเรื่องประสบการณ์ผู้ใช้และข้อจำกัดของอุปกรณ์มือถือด้วย
13. นักยิงโฆษณา (Ads Optimizer)
นักยิงโฆษณา (Ads Optimizer) คือคนที่บริหารและปรับแต่งแคมเปญโฆษณาออนไลน์ให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุดในงบประมาณที่มี ต้องรู้จักตั้งค่ากลุ่มเป้าหมาย เลือกรูปแบบโฆษณา ทดสอบหลาย ๆ แบบ และวิเคราะห์ผลลัพธ์เพื่อปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง งานนี้ใช้ทั้งความรู้ด้านการตลาดและการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้เงินลูกค้าแต่ละบาทที่ลงทุนไปกับโฆษณาคุ้มค่าที่สุด
14. อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer)
อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) คือคนที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะด้านไลฟ์สไตล์ ความงาม อาหาร หรือความรู้เฉพาะทาง ซึ่งจะต้องสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์ สร้างความสัมพันธ์กับผู้ติดตาม และร่วมงานกับแบรนด์โดยยังคงความจริงใจ งานนี้ไม่ได้อาศัยทักษะการถ่ายรูปเท่านั้น แต่ต้องวางแผนคอนเทนต์ได้ คิดงานเองได้ และเจรจากับลูกค้าได้ด้วย
15. คอนเทนต์ครีเอเตอร์ (Content Creator)
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ (Content Creator) คือคนที่ผลิตเนื้อหาสร้างสรรค์ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งวิดีโอ รูปภาพ เสียง หรือข้อความ ต้องมีทักษะหลากหลาย ตั้งแต่การคิดไอเดีย การเล่าเรื่อง ไปจนถึงการใช้อุปกรณ์และโปรแกรมตัดต่อ งานนี้ต้องติดตามเทรนด์ เข้าใจแพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน และปรับตัวให้ทันกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
16. นักออกแบบกราฟิก (Graphic Designer)
นักออกแบบกราฟิก (Graphic Designer) คือคนที่ทำงานสร้างภาพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโลโก้ โปสเตอร์ รูปลงโซเชียล หรืองานดีไซน์อื่นๆ ต้องใช้โปรแกรมออกแบบอย่าง Photoshop และ Illustrator ได้ดี มีความเข้าใจเรื่องสี การจัดวาง และรูปแบบตัวอักษร งานนี้ต้องคิดสร้างสรรค์และทำให้ลูกค้าพอใจไปพร้อมกัน บางทีต้องแก้งานหลายรอบกว่าจะได้ชิ้นงานที่ใช่ นักออกแบบกราฟิกที่เก่งจะช่วยให้แบรนด์ดูน่าสนใจและจดจำได้ง่าย
17. นักสร้างแอนิเมชั่น (Animator)
นักสร้างแอนิเมชั่น (Animator) คือผู้ที่ทำให้ภาพเคลื่อนไหวได้ตั้งแต่การ์ตูนง่าย ๆ ไปจนถึงงาน 3D ซับซ้อน ต้องรู้จักการกำหนดท่าทาง การเคลื่อนไหว และจังหวะต่าง ๆ ใช้โปรแกรมเฉพาะทางอย่าง After Effects หรือ Blender ได้คล่อง งานนี้ต้องใจเย็นและละเอียดมาก เพราะแค่คลิปสั้น ๆ อาจต้องทำทีละเฟรมเป็นร้อยเฟรม แต่เมื่อเห็นผลงานเคลื่อนไหวได้สมจริงก็รู้สึกคุ้มค่า
18. นักตัดต่อวิดีโอ (Video Editor)
นักตัดต่อวิดีโอ (Video Editor) คือคนที่เอาคลิปต่าง ๆ มาประกอบเป็นเรื่องราว ตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออก เพิ่มเสียงดนตรี ใส่เอฟเฟกต์ และทำให้วิดีโอน่าดูยิ่งขึ้น ต้องใช้โปรแกรมตัดต่ออย่าง Premiere Pro หรือ Final Cut Pro ได้ดี มีทักษะการเล่าเรื่องและรู้จักจังหวะในการตัด บางทีต้องทำงานเร่งด่วนเพื่อให้ทันกำหนดส่ง งานนี้เหมาะกับคนที่ชอบดูหนัง มีความละเอียด และอดทนนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ได้นาน ๆ
19. ช่างภาพ (Photographer)
ช่างภาพ (Photographer) คือคนที่รับงานถ่ายภาพในโอกาสต่าง ๆ อาจเป็นงานแต่งงาน ถ่ายสินค้า ถ่ายอาหาร หรือถ่ายวิวธรรมชาติ ต้องรู้จักใช้กล้อง ปรับค่าแสง และจัดองค์ประกอบภาพให้สวยงาม บางคนเน้นถ่ายงานอีเวนต์ บางคนถ่ายแฟชั่น บางคนรับถ่ายภาพครอบครัว แต่ละแบบต้องมีทักษะต่างกันไป งานนี้ต้องลงทุนอุปกรณ์ค่อนข้างเยอะ ทั้งกล้อง เลนส์ ไฟ แต่ถ้าฝีมือดีก็มีงานเข้าไม่ขาดสาย
20. นักเขียนบทภาพยนตร์ (Screenwriter)
นักเขียนบทภาพยนตร์ (Screenwriter) คือคนที่เขียนเรื่องราวและบทพูดสำหรับหนัง ซีรีส์ หรือรายการต่าง ๆ ต้องเข้าใจโครงสร้างเรื่อง การเขียนบทสนทนา และการสร้างตัวละครที่น่าสนใจ งานนี้ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ รู้จักธรรมชาติของคน และสังเกตรายละเอียดรอบตัว บางคนทำงานอิสระรับเขียนบทเป็นชิ้น บางคนประจำกับบริษัทผลิตหนังหรือรายการทีวี เป็นงานเบื้องหลังที่สำคัญมาก เพราะถ้าบทไม่ดี งานที่ออกมาก็ยากจะน่าสนใจ
21. นักวาดภาพประกอบ (Illustrator)
นักวาดภาพประกอบ (Illustrator) คือคนที่วาดภาพเพื่อเล่าเรื่องหรือสื่อความหมายบางอย่าง อาจเป็นภาพประกอบหนังสือ โฆษณา หรือคอนเทนต์ออนไลน์ต่าง ๆ บางคนวาดด้วยมือแบบดั้งเดิม บางคนวาดด้วยแท็บเล็ตในโปรแกรมดิจิทัล แต่ละคนมักมีสไตล์เฉพาะตัวที่ทำให้คนดูรู้ว่าเป็นผลงานของใคร งานนี้ต้องเข้าใจโจทย์ ตีความสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และพร้อมปรับแก้หลายรอบหากจำเป็น ใครที่ชอบวาดรูปและอยากหารายได้จากมัน อาชีพนี้น่าลองมาก
22. ยูทูบเบอร์ (YouTuber)
ยูทูบเบอร์ (YouTuber) คือคนที่ทำคอนเทนต์วิดีโอลงช่อง YouTube ของตัวเอง ทำได้หลากหลายแนว เช่น รีวิว สอน เล่าเรื่อง หรือความบันเทิง ขึ้นอยู่กับความถนัดและความสนใจ งานนี้ต้องทำหลายอย่าง ทั้งคิดเนื้อหา ถ่ายวิดีโอ ตัดต่อ และโปรโมตช่อง ช่วงแรกอาจมีคนดูน้อย รายได้ไม่ชัดเจน แต่ถ้าทำต่อเนื่องและมีคนติดตามมากขึ้น ก็มีโอกาสสร้างรายได้จากโฆษณาและการร่วมงานกับแบรนด์ อาชีพนี้ให้อิสระสูงแต่ก็ต้องทำงานหนักเช่นกัน
23. พิธีกร (MC)
พิธีกร (MC) คือคนที่ดำเนินรายการหรืองานต่าง ๆ ไม่ว่าจะบนเวที ทีวี หรือออนไลน์ ต้องพูดเก่ง มีไหวพริบ และปรับตัวตามสถานการณ์ได้ดี งานนี้หลากหลายมาก มีทั้งพิธีกรงานแต่งงาน งานสัมมนา พิธีกรรายการข่าว หรือรายการวาไรตี้ แต่ละงานต้องเตรียมตัวต่างกัน คนทำอาชีพนี้ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา ติดตามข่าวสาร และฝึกฝนการพูดอยู่เสมอ บางคนเริ่มจากงานเล็ก ๆ ก่อน ค่อย ๆ สั่งสมประสบการณ์จนมีโอกาสงานใหญ่ขึ้น
24. นักไลฟ์สตรีมเกม (Game Livestreamer)
นักไลฟ์สตรีมเกม (Game Livestreamer) คือคนที่ถ่ายทอดสดตัวเองเล่นเกมให้คนอื่นดู ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Twitch YouTube TikTok หรือ Facebook Gaming ส่วนใหญ่จะเล่นเกมไปด้วย พูดคุยกับคนดูไปด้วย อาจมีการแสดงความคิดเห็น ให้เทคนิค หรือแค่พูดคุยเรื่องทั่วไป งานนี้ต้องมีอุปกรณ์พื้นฐานพอสมควร ทั้งคอมฯ ที่แรงพอ กล้อง ไมค์ และอินเทอร์เน็ตที่เสถียร รายได้มาจากคนที่บริจาคเงินให้ระหว่างไลฟ์ หรือสมัครเป็นสมาชิกรายเดือน ถ้ามีคนดูเยอะก็มีโอกาสได้สปอนเซอร์ด้วย
25. นักเขียนนิยาย (Fiction Writer)
นักเขียนนิยาย (Fiction Writer) คือคนที่แต่งเรื่องราวขึ้นมาเอง ทั้งเรื่องสั้น นวนิยาย หรือซีรีส์หลายตอน มีหลายแนว เช่น โรแมนซ์ แฟนตาซี สยองขวัญ หรือสืบสวน ต้องมีทักษะการเล่าเรื่อง การสร้างตัวละคร และการวางโครงเรื่องที่น่าสนใจ งานนี้ทำได้หลายรูปแบบ บางคนส่งให้สำนักพิมพ์ บางคนลงเว็บอ่านนิยายออนไลน์ บางคนเผยแพร่ทีละตอนผ่านแพลตฟอร์มเฉพาะ อาชีพนี้ต้องอดทนสูง เพราะต้องนั่งเขียนคนเดียวเป็นชั่วโมง แต่ความสุขคือการที่ได้เห็นคนอ่านชื่นชอบผลงานของเรา
26. ครูสอนพิเศษ (Tutor)
ครูสอนพิเศษ (Tutor) ทำงานช่วยเสริมความรู้ให้กับนักเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือในวิชาต่าง ๆ ทั้งวิชาหลักทั่วไปหรือเนื้อหาเฉพาะทาง อาชีพนี้เหมาะกับคนที่มีความรู้ดีในวิชาที่สอนและสามารถอธิบายเรื่องยากให้เข้าใจง่าย คุณสามารถสอนได้ทั้งแบบกลุ่มเล็ก ตัวต่อตัว หรือผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ความสำคัญอยู่ที่การสังเกตและเข้าใจว่านักเรียนแต่ละคนเรียนรู้แบบไหน เพื่อปรับวิธีสอนให้เหมาะกับผู้เรียน
27. ขายของออนไลน์ (Online Seller)
การขายของออนไลน์ ป็นการทำธุรกิจผ่านช่องทางดิจิทัลที่มีหลายขั้นตอน คุณต้องรับผิดชอบทั้งการหาสินค้า ถ่ายรูป เขียนคำอธิบาย ดูแลคำสั่งซื้อ ตอบคำถามลูกค้า จัดส่งพัสดุ และดูแลบัญชีรายรับรายจ่าย ใครที่อยากเริ่มต้นสามารถลองขายผ่าน Shopee, Lazada หรือแม้แต่ Facebook, TikTok ก็ได้ แนะนำให้เลือกสินค้าที่ตรงความต้องการตลาดในขณะนั้นจะดีที่สุด
28. นักออกแบบท่าเต้น (Choreographer)
นักออกแบบท่าเต้น (Choreographer) ทำหน้าที่สร้างท่าเต้นที่สวยงามและเข้ากับจังหวะดนตรี เหมาะกับคนที่ชอบและเข้าใจการเคลื่อนไหวร่างกาย มีความคิดสร้างสรรค์ และรู้จักการทำงานกับคนอื่น คุณจะทำงานกับโปรเจกต์หลายรูปแบบ ทั้งมิวสิกวิดีโอ งานแสดงโชว์ คอนเสิร์ต หรือแม้แต่โฆษณา งานหลักคือการออกแบบท่าเต้นที่สื่อความหมายและสอนให้นักเต้นทำท่าเหล่านั้นได้ถูกต้อง
29. นักอ่านไพ่ (Tarot Reader)
นักอ่านไพ่ (Tarot Reader) เป็นผู้ให้คำแนะนำและมุมมองชีวิตผ่านการใช้ไพ่ทาโรต์ คุณต้องรู้จักความหมายของไพ่แต่ละใบและการแปลความหมายเมื่อไพ่ปรากฏร่วมกัน สิ่งสำคัญคือการพูดคุยและรับฟังผู้มาขอคำปรึกษาอย่างใส่ใจ เพื่อให้คำอธิบายที่ตรงประเด็นและเป็นประโยชน์ นักอ่านไพ่สามารถให้บริการได้ทั้งพบปะตัวต่อตัว จัดงานอีเวนต์ หรือให้คำปรึกษาผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการทำงาน
30. นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Agent)
นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Agent) คือคนที่ช่วยเชื่อมระหว่างคนที่อยากขายและคนที่อยากซื้อบ้าน คอนโด หรือที่ดิน คุณต้องรู้จักทำเลและรายละเอียดของทรัพย์สินที่ดูแล สามารถแนะนำที่พักที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้า และจัดการเรื่องเอกสารต่าง ๆ ให้ถูกต้อง นอกจากทักษะการขายแล้ว ความน่าเชื่อถือและการสร้างเครือข่ายกับนายหน้าคนอื่น ๆ ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้นด้วย
สรุป
จบไปแล้วกับบทความ “อาชีพฟรีแลนซ์มีอะไรบ้างที่ได้เงินดี ในปี 2025” ซึ่งเราก็ได้รวบรวมมาให้ถึง 30 อาชีพแบบจัดเต็ม แต่อาชีพเหล่านี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีอาชีพฟรีแลนซ์อื่น ๆ อีกเยอะมาก ทุกอย่างที่คุณถนัดหรือเชี่ยวชาญ สามารถนำมาสร้างรายได้รับงานฟรีแลนซ์ได้ทั้งหมด หากคุณรับงานฟรีแลนซ์ควบคู่กับงานประจำ อย่าลืมวางแผนตารางเวลาชีวิตให้ดี เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาตามมานั่นเอง

Leave a Reply