- 1. Digital Marketing
 - 2. Business Developer
 - 3. Branding Specialist
 - 4. Marketing Data Analyst
 - 5. Project Manager
 - 6. Account Executive
 - 7. PR Specialist
 - 8. Media Planner
 - 9. Performance Marketing Specialist
 - 10. SEO Specialist
 - 11. Web Developer
 - 12. UX/UI Designer
 - 13. SEO Content Writer
 - 14. Content Strategist
 - 15. Creative Content Creator
 - 16. Copywriter
 - 17. Content Writer
 - 18. Video Content Creator
 - 19. Graphic Designer
 - 20. Motion Graphic Designer
 - 21. Video Editor
 - 22. Cameraman
 - 23. Influencer / KOL Specialist
 - 24. Social Media Admin
 - 25. E-commerce Admin
 - สรุป
 
เทคโนโลยีและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลา ทำให้ตลาดงานและอาชีพมาแรงนั้นเปลี่ยนไปตามยุคสมัยด้วย วันนี้ ADCHARIYA (แอดฉริยะ) จึงอยากจะมาอัปเดตเทรนด์อาชีพมาแรง 2025 ที่น่าสนใจให้คุณทราบกัน ไม่ว่าจะเป็นงานประจำเองหรือฟรีแลนซ์อาชีพเหล่านี้ก็เป็นที่ต้องการอย่างมาก บทความนี้จะช่วยคุณมองเห็นงานที่มีอนาคตและแนวทางพัฒนาตัวเองให้พร้อมรับโอกาสใหม่ ๆ การเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้จะช่วยให้คุณก้าวหน้าได้ทันทุกการเปลี่ยนแปลงนั่นเอง หากพร้อมแล้วเราไปลุยกันได้เลย
1. Digital Marketing
Digital Marketing หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัล วางแผนและดำเนินกลยุทธ์ผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ และการทำโฆษณาออนไลน์ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและสร้างยอดขายให้กับธุรกิจ ต้องเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์อยู่เสมอ พร้อมปรับเปลี่ยนแผนให้ทันเทรนด์และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
2. Business Developer
Business Developer หรือนักพัฒนาธุรกิจ มองหาโอกาสใหม่ ๆ ในการขยายตลาด สร้างพาร์ตเนอร์ และวางแผนกลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่ต้องใช้ทั้งความคิดวิเคราะห์และทักษะการสื่อสาร เพื่อเปลี่ยนโอกาสทางธุรกิจให้กลายเป็นรายได้จริง
3. Branding Specialist
Branding Specialist หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์ เป็นคนที่ดูแลภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ชัดเจนและน่าจดจำ ผ่านการออกแบบ สื่อสาร และสร้างประสบการณ์ที่ตรงใจลูกค้า เพื่อทำให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น จดจำได้ง่าย และมีความรู้สึกผูกพัน จนกลายเป็นแบรนด์ที่คนอยากเลือกใช้ในระยะยาว
4. Marketing Data Analyst
Marketing Data Analyst หรือนักวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด ทำหน้าที่แปลงข้อมูลเป็นอินไซต์ ช่วยทีมวางแผนและปรับกลยุทธ์อย่างแม่นยำ เพื่อให้การตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต้องเก่งทั้งตัวเลขและเข้าใจบริบททางการตลาด เพื่อหาความเชื่อมโยงระหว่างพฤติกรรมลูกค้าและผลลัพธ์ทางธุรกิจ
5. Project Manager
Project Manager หรือผู้จัดการโปรเจกต์ต่าง ๆ มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของทีมให้เป็นไปตามแผน งบประมาณ และเวลาที่กำหนด โดยต้องประสานงานกับหลายฝ่าย คอยแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และรักษาคุณภาพของงานให้ตอบโจทย์เป้าหมายของลูกค้าและองค์กร
6. Account Executive
Account Executive หรือ AE ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างลูกค้าและทีมงาน คอยดูแลความต้องการของลูกค้าให้ได้รับบริการที่ตรงใจ ตำแหน่งนี้ต้องมีทักษะการสื่อสารที่ดี เข้าใจทั้งธุรกิจของลูกค้าและศักยภาพของทีม เพื่อผลักดันให้งานเดินหน้าได้อย่างราบรื่น
7. PR Specialist
PR Specialist หรือผู้เชี่ยวชาญด้านประชาสัมพันธ์ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ผ่านการสื่อสารกับสื่อและสาธารณชน เช่น ดูแลการเขียนข่าว จัดอีเวนต์ และรับมือกับวิกฤตด้านภาพลักษณ์ เพื่อให้แบรนด์เป็นที่จดจำในแง่บวกและน่าเชื่อถือ
8. Media Planner
Media Planner หรือผู้วางแผนสื่อ เลือกช่องทางโฆษณาให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ทั้งในด้านงบประมาณ เวลา และประเภทสื่อ ต้องมีความสามารถด้านการวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภค เข้าใจพฤติกรรมแต่ละแพลตฟอร์ม และจัดสรรงบให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในทุกแคมเปญ
9. Performance Marketing Specialist
Performance Marketing Specialist หรือผู้เชี่ยวชาญการตลาดแบบเน้นผลลัพธ์ วางแผนและจัดการโฆษณาออนไลน์ให้คุ้มค่ากับงบที่ใช้ เน้นการวัดผลแบบเรียลไทม์ เช่น จำนวนคลิก ยอดขาย หรือ Conversion พร้อมปรับแคมเปญให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในทุกขั้นตอน
10. SEO Specialist
SEO Specialist หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการทำ SEO (Search Engine Optimization) หรือปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับในหน้าค้นหาของ Google โดยไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณาในทุก ๆ วัน ตำแหน่งนี้ต้องเข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ คีย์เวิร์ด และพฤติกรรมผู้ใช้ เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนเข้าถึงเว็บไซต์ผ่านการค้นหาแบบธรรมชาติ (Organic Search)
11. Web Developer
Web Developer หรือผู้พัฒนาเว็บไซต์ เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังโค้ดทั้งหมด สร้างเว็บไซต์ให้ทำงานได้จริงและปลอดภัย ไม่ใช่แค่ทำให้เว็บใช้งานได้ธรรมดา ๆ เท่านั้น แต่เว็บไซต์ต้องโหลดไว ใช้งานง่าย รองรับทุกอุปกรณ์ และพร้อมขยายในอนาคตตามความต้องการของธุรกิจ
12. UX/UI Designer
UX/UI Designer หรือผู้ออกแบบประสบการณ์และหน้าตาการใช้งานเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน ให้ใช้งานง่ายและรู้สึกดี ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์กับการเข้าใจผู้ใช้งาน เพื่อให้ทุกคลิก ทุกหน้า และทุกฟังก์ชัน เป็นประสบการณ์ที่ราบรื่นและน่าประทับใจ
13. SEO Content Writer
SEO Content Writer หรือนักเขียนบทความ SEO เพื่อให้บทความที่เขียนติดอันดับการค้นหาบน Google ทำให้เว็บไซต์ได้ Organic Traffic สร้างความน่าเชื่อถือ และเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้แก่ธุรกิจ
14. Content Strategist
Content Strategist หรือผู้วางกลยุทธ์เนื้อหา มีหน้าที่วางแผนและกำหนดทิศทางของคอนเทนต์ให้สอดคล้องกับเป้าหมายของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างการรับรู้ เพิ่มยอดขาย หรือรักษาฐานลูกค้า พร้อมวิเคราะห์ผลลัพธ์เพื่อพัฒนาเนื้อหาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
15. Creative Content Creator
Creative Content Creator หรือผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์เชิงไอเดีย ผลิตเนื้อหาที่น่าสนใจในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งภาพ วิดีโอ หรือโพสต์โซเชียลมีเดีย เพื่อดึงดูดและสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ชม จุดเด่นคือความคิดสร้างสรรค์และการจับเทรนด์ที่รวดเร็วทันกระแส
16. Copywriter
Copywriter หรือนักเขียนข้อความโฆษณา มีหน้าที่เขียนข้อความสั้น ๆ ให้กระชับ โดนใจ และกระตุ้นให้คนตัดสินใจ เช่น แคปชัน โปรโมชัน หรือสโลแกน ต้องเข้าใจทั้งแบรนด์และผู้บริโภค เพื่อถ่ายทอดข้อความได้ตรงจุดและสร้างอารมณ์ร่วม
17. Content Writer
Content Writer หรือนักเขียนเนื้อหา สร้างบทความที่ให้ข้อมูล มีประโยชน์ และน่าอ่าน ทั้งบนเว็บไซต์ บล็อก หรือโซเชียลมีเดีย เน้นการเล่าเรื่องที่เข้าใจง่าย สอดแทรกคุณค่า และตอบโจทย์ผู้อ่านในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
18. Video Content Creator
Video Content Creator หรือผู้สร้างคอนเทนต์วิดีโอ มีหน้าที่คิดและผลิตวิดีโอให้น่าสนใจตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งการวางคอนเซ็ปต์ ถ่ายทำ และตัดต่อ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายในแพลตฟอร์มต่าง ๆ โดยเฉพาะโซเชียลมีเดียที่ต้องอาศัยความรวดเร็วและโดนใจในไม่กี่วินาที
19. Graphic Designer
Graphic Designer หรือนักออกแบบกราฟิก สร้างงานออกแบบเพื่อสื่อสารแบรนด์ผ่านภาพ เช่น โปสเตอร์ แบนเนอร์ โลโก้ หรือสื่อออนไลน์ ต้องมีสายตาด้านความสวยงาม พร้อมถ่ายทอดไอเดียให้ออกมาเข้าใจง่ายและจดจำได้ในพริบตา
20. Motion Graphic Designer
Motion Graphic Designer หรือผู้ออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ผสมผสานภาพ เสียง และแอนิเมชันเข้าด้วยกัน เพื่อทำให้เนื้อหาดูน่าสนใจและมีชีวิตชีวามากขึ้น เหมาะกับวิดีโออธิบายสินค้า อินโฟกราฟิก หรือโฆษณาที่ต้องการความโดดเด่นและแตกต่าง
21. Video Editor
Video Editor หรือนักตัดต่อวิดีโอ มีหน้าที่จัดเรียงภาพ เสียง และจังหวะให้ออกมาเป็นวิดีโอที่ลื่นไหลและสื่อสารได้ตรงจุด ต้องมีทั้งทักษะเทคนิคและเซนส์ศิลปะ เพื่อปรับอารมณ์ของเรื่องราวให้ตรงกับเป้าหมายของแต่ละชิ้นงาน
22. Cameraman
Cameraman หรือช่างภาพวิดีโอ รับผิดชอบการถ่ายทำให้ออกมาสวยงามทั้งในด้านมุมกล้อง แสง และองค์ประกอบภาพ ต้องเข้าใจบทและอารมณ์ของงานเพื่อจับภาพได้ตรงจังหวะ และส่งต่อให้ทีมอื่นนำไปใช้งานต่อได้อย่างราบรื่น
23. Influencer / KOL Specialist
Influencer Specialist / KOL Specialist หรือผู้ดูแลการทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ มีหน้าที่คัดเลือก เจรจา และบริหารแคมเปญให้เหมาะกับแบรนด์ รวมถึงประเมินผลลัพธ์จากการร่วมงาน ต้องเข้าใจทั้งโลกของคอนเทนต์และพฤติกรรมของผู้ติดตาม เพื่อให้แคมเปญเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
24. Social Media Admin
Social Media Admin หรือแอดมินโซเชียลมีเดีย ดูแลการโพสต์ ตอบคอมเมนต์และข้อความ รวมถึงอัปเดตเนื้อหาบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ให้แบรนด์ดูมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ ต้องสื่อสารได้ดี มีไหวพริบ และรู้จักปรับโทนให้เหมาะกับบุคลิกของแบรนด์
25. E-commerce Admin
E-commerce Admin หรือผู้ดูแลหน้าร้านออนไลน์ รับผิดชอบจัดการสินค้า อัปเดตราคา ดูแลออร์เดอร์ และตอบแชตลูกค้าในแพลตฟอร์มต่าง ๆ อาทิ Shopee, TikTok Shop หรือ Lazada ซึ่งจะต้องมีความละเอียดรอบคอบ เข้าใจระบบหลังบ้าน และตอบสนองลูกค้าได้อย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการขาย
สรุป
เมื่อดูอาชีพมาแรง 2025 ทั้งหมดทั้ง 25 อาชีพในบทความนี้ เราจะเห็นว่าทักษะด้านดิจิทัล ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และความสามารถในการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่ว่าคุณจะทำงานสายไหน การเรียนรู้สิ่งใหม่และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้ คุณควรลงทุนกับการพัฒนาทักษะของตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้พร้อมรับความเปลี่ยนแปลงและโอกาสดี ๆ ที่จะเข้ามาในอนาคต

Leave a Reply